พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๙/๒ โดย อ.ษณอนงค์ คำแสนหวี (อาจารย์แอน)

โดย อ.ษณอนงค์ คำแสนหวี (อาจารย์แอน)

        เมื่อโจโฉเห็นพระอักษร จึงรู้ว่าพระเจ้าเหี้ยนเต้กลับไปอยู่ ณ เมืองลกเอี๋ยง จึงได้ปรึกษากับทหารทั้งปวง
ซุนฮก ที่ปรึกษาคนสำคัญ ให้ความเห็นอย่างชนิดที่เรียกว่า เห็นเจตนาตั้งแต่แรก

ซุนฮกจึงว่า ครั้งที่พระเจ้าจิ๋วซองอ๋องได้เสวยราชสมบัตินั้น บ้านเมืองเป็นจลาจล พระเจ้าจิ๋วซองอ๋องให้หาจิ๋นบุนก๋งเข้าไปช่วยราชการเมือง ขุนนางทั้งปวงอยู่ในบังคับบัญชาจิ๋นบุนก๋ง อยู่มาจิ๋นบุนก๋งก็ได้ราชสมบัติโดยง่าย (มีอยู่ในเรื่องเลียดก๊ก คือ ยุคสงครามเจ็ดรัฐ) ครั้งนี้พระเจ้าเหี้ยนเต้ ให้หาท่านเข้าไปช่วยราชการก็ได้ทีแล้ว ควรจะยกเข้าไปตามรับสั่ง ถ้าท่านช้าอยู่ หัวเมืองผู้ใดที่มีฝีมือ ยกเข้าไปถึงก่อน ราชการก็จะสิทธิ์ขาดอยู่กับผู้นั้น ขอท่านยกเข้าไปให้ทันที โจโฉก็เห็นชอบด้วย” (เพราะตรงกับใจ)

เป็นที่ปรึกษา อย่างน้อยต้องเก่งประวัติศาสตร์ เด็กสมัยนี้ถ้าไม่เก่งประวัติศาสตร์ ก็เป็นที่ปรึกษาได้ยาก อย่าคิดว่าไม่จำเป็นนะคะ ธุรกิจอาจล้มได้หากขาดที่ปรึกษา จะทำการใหญ่ ที่ปรึกษาต้องดี

ท่านผู้อ่านสามก๊กทั้งหลาย ตอนหัวเลี้ยวหัวต่อ ก่อนที่โจโฉจะเข้าไปมีอำนาจในเมือง และอยู่ยืนยาวจนเป็นหนึ่งในสามก๊กนั้น ให้จำเจตนาเบื้องต้นไว้ให้ดี จะได้มีวินิจฉัยได้ว่า ใครเป็นผู้หวังดีต่อบ้านเมืองมากที่สุด

โหราศาสตร์พิชัยสงคราม,สามก๊กพิชัยยสงคราม,พระเจ้าเหี้ยนเต้,ajarn ann team
สามก๊ก: โจโฉ
เมื่อโจโฉ ยกมาถึงเมืองลกเอี๋ยง จึงเข้าไปกราบถวายบังคมคุกเข่าเฝ้าพระเจ้าเหี้ยนเต้ พระเจ้าเหี้ยนเต้เห็นโจโฉ ก็มีความยินดี โจโฉกราบทูลว่า

ซึ่งพระองค์ชุบเลี้ยงข้าพเจ้ามาแต่ก่อนนั้น คิดอยู่ว่า จะสนองพระคุณมิได้ขาด ครั้งนี้ ลิฉุย กุยกี ทำการหยาบช้าต่อพระองค์นั้น อย่าได้ทรงวิตกเลยข้าพเจ้าจะคิดอ่านฆ่าลิฉุย กุยกี เสียให้ได้

พระเจ้าเหี้ยนเต้มีความยินดีนัก จึงตั้งให้โจโฉเป็นขุนนางผู้ใหญ่ในเมือง ว่าราชการทั้งฝ่ายทหารและฝ่ายพลเรือน

เป็นอันว่าโจโฉ ได้ราวีกับกองทัพลิฉุย กุยกี จนพ่ายแพ้แตกทัพไป และครั้งนี้ ทำให้ขุนพลคนสำคัญ คือ เอียวหอง และโจรกลับใจ หันเซียม ที่มาสวามิภักดิ์คิดกลัวโจโฉ จึงอาสาพระเจ้าเหี้ยนเต้ยกทหารออกไปตามจับลิฉุย กุยกี คือยกกองทัพออกจากนอกเมืองไป

ในครั้งนี้ โจโฉ ได้รู้จักขุนนางลักษณะดี มีชื่อว่า ตังเจี๋ยวเนื่องจากเป็นผู้ที่พระเจ้าเหี้ยนเต้ใช้ประสานติดต่อกับโจโฉ เพื่อปรึกษาข้อราชการ

โจโฉ เห็นรูปร่างตัวเจี๋ยว พ่วงพี ผิวเนื้อสดใส มีดวงตากลมโต คิ้วสุดหางตา มีลักษณะดี โจโฉก็ถามว่า ในเมืองหลวงนี้มิได้มีความสุข ทั้งข้าวปลาอาหารก็ขัดสน ตังเจี๋ยวบำรุงตัวประการใด จึงมีสีสันสมบูรณ์เหมือนบ้านเมืองปรกติดังนี้

ตังเจี๋ยวจึงตอบว่า ข้าพเจ้าได้บำรุงตัวประการใดหามิได้ ข้าพเจ้ารับประทานอาหารจนอายุได้สามสิบปี
โจโฉ จึงหัวเราะ ถามว่า ท่านเป็นขุนนางตำแหน่งใด
ตังเจี๋ยวบอกว่า ข้าพเจ้านี้เป็นชาวเมืองเต็งโต๋ เป็นที่ปรึกษาอยู่กับอ้วนเสี้ยว ครั้นแจ้งว่าพระเจ้าเหี้ยนเต้เสด็จกลับมาอยู่ ณ เมืองลกเอี๋ยงแล้ว จึงเข้ามาทำราชการ แล้วโปรดให้เป็นที่เจียงยี่หลงซึ่งแปลภาษาไทยว่า เป็นที่ปรึกษา



โจโฉจึงว่า เราได้ยินลืออยู่ช้านานแล้ว ซึ่งได้มาพบท่านนี้ก็เป็นบุญของเรา จึงให้หาซุนฮกมาให้รู้จักกับตังเจี๋ยว แล้วกินโต๊ะกันตามธรรมเนียม