เรียนโหราศาสตร์ จากวรรณคดี เรื่อง รามเกียรติ์/๒๑ โดย อาจารย์แอน

เรียนโหราศาสตร์ จากวรรณคดี เรื่อง รามเกียรติ์/๒๑  ดวงประเทียบ ทศกัณฐ์

โดย อาจารย์แอน

ดวงประเทียบ ทศกัณฐ์ ๑๐

ลูกเล่นโหร จากดวงประเทียบทศกัณฐ์ ยังมีให้สอนกัน

ก่อนอื่น ท่องจำไว้นะ ว่าปรกติ โบราณจารย์ เอาสิบสองนักษัตร มาคำนวณด้วย โดยใช้วงรอบของดาว ๕ นับจาก ดาว ๕ ปีชวด เริ่มที่ราศีธนู แต่นับจากกลางปี ประมาณเดือนกรกฎาคม โดยประมาณนะ ที่ดาว ๕ จะย้าย หมายถึง พฤหัสจักรกับสิบสองนักษัตรเริ่มนับจากกลางปี หรือ กรกฎาคม บวกลบ ถ้าเกิดไม่ตรงกับนักษัตรของดาว ๕ แสดงว่า ปีนั้นๆ ดาว ๕ เดินพักร์ เสริด มน ที่จะอธิบายภายหลัง ถึงความหมายนี้

๕ สถิตราศีธนู ใครที่เกิดหลังกรกฎาคมปีชวด ดาว ๕ จะสถิตราศีธนู คราวนี้ก็ไล่เรียงไป

พฤหัสจักร

สถิตราศีมังกร คือ ฉลู

ราศีกุมภ์ คือ ขาล

ราศีมีน คือ เถาะ

เมษ คือ มะโรง

อย่าลืมนับจากกลางปีนะ

พฤษภ คือ มะเส็ง

เมถุน คือ มะเมีย

กรกฎ คือ มะแม

สิงห์ คือ วอก

กันย์ คือ ระกา

ราศีตุลย์ คือ จอ และ ราศีพิจิก คือ ปีกุน

อย่างงนะ หลานๆ ลืมหลักอื่นไปก่อนน่ะ จำว่า ๕ ย้ายกลางปี ค่อนปลาย บวกลบ สามเดือนเชียว

ส่วนดาว ๑ ก็สถิตตามเดือนที่เกิด นับจากกลางเดือนเหมือนกัน

ดาว ๑ อยู่ราศีเมษ หมายถึงจะเกิด ระหว่าง ๑๓-๑๗ เมษายน เป็นต้นไปถึง ๑๓-๑๗ พฤษภาคม

ดาว ๑ อยู่ราศีพฤษภ หมายถึงจะเกิด ระหว่าง ๑๓-๑๗ พฤษภาคม ถึง ๑๓-๑๗ มิถุนายน

ดาว ๑ อยู่ราศีเมถุน หมายถึงจะเกิดระหว่าง ๑๓-๑๗ มิถุนายน ถึง๑๓-๑๗ กรกฎาคม

ไล่เรียงไปนะ

ใครก็ตามที่เกิดเวลา ที่พระอาทิตย์จะขึ้น คือ ๖ โมงเช้าโดยประมาณ แสดงว่า ดาว ๑ จะสถิตอยู่ในราศีที่ดาว ๑ สถิตอยู่ ดาว ๑ จะสถิตอยู่ราศีละ ๒ ชั่วโมง ถ้า สิบสองราศี คือ ยี่สิบสี่ชั่วโมงพอดี

ดังนั้น อาจารย์ วาง ดาว ๑ ที่ราศีเมษ แสดงว่า ทศกัณฐ์ เกิดหลังสงกรานต์ เดือนเมษายน วางลัคนาที่ราศีพฤษภ กลางราศี แสดงว่า เกิดเวลา จวนเก้าโมง

ดังนั้น ดวงประเทียบจึงบอกเวลาเกิดได้ ว่า เกิดวันเสาร์ เดือนห้า นี่ถ้ามีอะไร ห้าอีก ก็คือ เสาร์ ๕ นี่ วันเสาร์ เดือน ๕ ก็เสาร์ ๕ แล้ว ท่านว่าแรงนัก เป็นโจร ก็ต้องขุนโจร เป็นนักรบก็ต้องเป็นแม่ทัพ เป็นยักษ์ก็ต้องเป็นขุนยักษ์ เป็นมาร ก็ต้องเป็นขุนมาร แถมเวลาเกิด ก็เก้าโมงอีก

นี่ไง ในบทกลอน เรียกทศกัณฐ์ เป็นขุนยักษ์ ขุนมาร ทุกคำ

ทบทวนนะ ไปช้าๆ ดอกบัวยังตูมอยู่ ค่อยๆ บาน

เรียนโหราศาสตร์ จากวรรณคดี เรื่อง รามเกียรติ์/๒๐ โดย อาจารย์แอน

เรียนโหราศาสตร์ จากวรรณคดี เรื่อง รามเกียรติ์/๒๐  ดวงประเทียบ ทศกัณฐ์

โดย อาจารย์แอน

ดวงประเทียบ ทศกัณฐ์ ๙

          สมมติว่า ให้ดาว ๕ อยู่ภพอริ คือ ตุลย์ จะเล็งกับดาว ๑ ผู้ใหญ่ไม่เอ็นดู ซึ่งต่างกับทศกัณฐ์ เป็นที่รักและเกรงใจในหมู่ญาติ ทั้งตรีโกณ หรือ เป็นห้า กับดาว ๔ และ ๙ ที่เราวางไว้ที่ราศีเมถุน ธาตุลมเหมือนกัน หมายถึงความเป็นนักปราชญ์ ฉลาดรอบรู้ ก็ห่างไกลจากความโดดเด่นของทศกัณฐ์ ผิดสองแห่ง ก็เลยวางไม่ได้จ้ะ เพราะสัมพันธ์กับดาวดวงอื่น เมื่อแปลออกมาแล้ว จะผิดไป และเมื่อดาว ๕ เจ้าเรือนมรณะ มาอยู่ภพอริ จะทำให้ศัตรูพ่ายแพ้ แต่ความเป็นจริง ศัตรูชนะตลอด ไปดูโขน ยกรบทีไร ก็แพ้ทีนั้น ทั้งดาว ๕ ราศีตุลย์ ไม่ให้ความเป็นใหญ่ แก่เจ้าชะตา ต้องตามเขาร่ำไป ก็ไม่ใช่นิสัยทศกัณฐ์อีกจ้ะ ยายอธิบายนี้ได้อีกหลายหลักเลย

โขน รามเกียรติ์ ยกรบ

ดอกบัวเริ่มตูมๆ เล็กๆ แล้ว

เรียนโหราศาสตร์ จากวรรณคดี เรื่อง รามเกียรติ์/๑๙ โดย อาจารย์แอน

เรียนโหราศาสตร์ จากวรรณคดี เรื่อง รามเกียรติ์/๑๙  ดวงประเทียบ ทศกัณฐ์

โดย อาจารย์แอน

ดวงประเทียบ ทศกัณฐ์ ๘

          อาจารย์วาง ดาว ๕ ที่ราศีสิงห์ จะได้เป็นสี่แก่ลัคน์ ได้ปทุมเกณฑ์ ตามตำรา

จันทร์สิบเอ็ดแท้ แก่ลัคน์

พฤหัสสี่ทรงศักดิ์ แช่มช้า

ศุกร์สามดั่งนี้จัก เจริญยิ่ง ยศแฮ

หากว่าชาติต่ำต้อย ยกให้เสมอพงษ์

เห็นไหมยายวางดาว ๕ ให้เป็นสี่แก่ลัคน์

ดวงประเทียบ ทศกัณฐ์

แต่ ดาว ๕ มาจากภพมรณะ พงษ์ก็เลยตายหมด และ๕ ในราศีสิงห์ ถือว่าเป็นใหญ่ ดูญาติๆ ทศกัณฐ์ล้วนเป็นญาติที่ยิ่งใหญ่ทั้งสิ้น

ดาว ๕ ราศีสิงห์ ตรีโกณ หรือ เป็นห้ากับดาว ๑ ได้รับการอุปถัมภ์ จากเทพเจ้าด้วย คือ ได้พรจากพระอิศวร หลายหน ทั้งราศีสิงห์ เป็นราศีของหัวใจ ที่ ทศกัณฐ์ เอาดวงใจไปฝาก ฤๅษี

ในทักษา ดาว ๕ สร้างจากฤๅษี ๑๙ ตน ทั้ง ราศีสิงห์ก็เป็นราศีของปีวอก หมายถึงลิง ดังนั้น ดาว ๕ ที่มาจากภพมรณะ จึงมีจุดรั่ว ท้ายสุดตามท้องเรื่อง ก็ถูก หนุมาน กับสุครีพ พญาลิงไปลวงเอากล่องดวงใจมาได้

ดาว ๘ ที่เล็งลัคน์ทศกัณฐ์ เป็นภินทุบาทว์ และ ดาว ๘ ก็หมายถึงยักษ์และเป็นสี่แก่ดาว ๕ ที่มีความหมายของดาวมรณะ ถึงญาติที่มีกำลังสูง ตายทั้งวงศ์

อาศัยจากพิเภก ที่พยากรณ์ว่า นางสีดา จะเป็นเหตุให้ผลาญวงศ์ยักษ์ ด้วย ตำแหน่ง ดาว ๒ เป็นอริ มรณะ แก่กัน กับ ดาว ๕ ในเรือนพันธุ หรือ วงศาคณาญาติ ทั้ง ดาว ๖ ก็เป็นประ อยู่ในภพวินาศอีก ดาว ๑ ก็เป็นดาวเจ้าเรือน พันธุ ไปอยู่วินาศ การที่มีดาว ๕ จากภพมรณะไปอยู่ภพพันธุ เลยตายหมดไง ดาว ๒ และ ดาว ๖ ถือ เป็นดาวผู้หญิงจ้ะ

ทศกัณฐ์ ฤๅษีโคบุตร หนุมาน

พูดวนไปวนมาให้งง

คือ ยายได้แต่เขียน บรรยาย ทำดวงในเฟสไม่เป็น ถ้าใคร กลับไปย้อนอ่าน เรื่องดาว เกษตร และความหมายของภพ รวมถึงลัคนา แล้วมาอ่านดวงประเทียบ เขียนตามที่สอน จะเห็นว่า ดวงนี้ไม่ว่า ใครเก่งอะไรมาอ่าน จะอ่านออกมาตามเรื่องราว ที่เกิดกับทศกัณฐ์

เป็นอันว่า เต็มดวงในครานี้...

เรียนโหราศาสตร์ จากวรรณคดี เรื่อง รามเกียรติ์/๑๘ โดย อาจารย์แอน

เรียนโหราศาสตร์ จากวรรณคดี เรื่อง รามเกียรติ์/๑๘  ดวงประเทียบ ทศกัณฐ์

โดย อาจารย์แอน

ดวงประเทียบ ทศกัณฐ์ ๗

          ดวงประเทียบของทศกัณฐ์ยังไม่จบ ยังมีดาว ศุภเคราะห์ ด้านดีของทศกัณฐ์ ตามท้องเรื่อง ดีน้อยมาก แต่ความยิ่งใหญ่ ทั้งมีวาทะให้วงศ์ญาติเชื่อถือ กลับมีมาก ทั้งเป็นกษัตริย์ครองกรุงลงกา สืบวงศ์พรหม ลักษณะของทศกัณฐ์ ต้องมีสง่า 

ดาว ๑ ต้องดี ดาว ๔ ก็ต้องไม่เสีย และ ดาว ๖ ก็ต้องส่งเสริมด้วย แต่จะทำอย่างไร ที่จะไม่วางตำแหน่งดาวสามดวงนี้เด่นไปกว่า ความร้ายและอิทธิฤทธิ์ของทศกัณฐ์ และต้องไม่เสียด้วย

ตามระบบสุริยจักรวาล การโคจรของดาว ๑ ๔ และ ๖ ต้องไม่ไกลกันเกิน สามราศี อันนี้แนะนำให้ไปดูท้องฟ้าจำลอง หรือ กลับไปหาหนังสือชั้นประถมมาดูทางโคจรของ ดาว ๔ ๖ และ โลก ที่หมุนรอบดวงอาทิตย์ เป็นลักษณะวงรี 

ดังนั้นการวางตำแหน่งดาวสามดวงนี้ จึงมีเคล็ดการวางด้วย

เรามาดู พระเคราะห์ คู่ของ ดาว ๑

๑ กับ ๖ เป็นพระเคราะห์คู่สมพล คือ มีพละกำลังมาก ในทางเกียรติยศและโภคทรัพย์ การครองสมบัติเมืองลงกา และโภคทรัพย์ เป็นความยิ่งใหญ่มากมาย สมกับดาวพระเคราะห์คู่นี้

จึงวางดาว ๑ เป็นอุจ ก่อน ดาว ๑ ที่เป็นอุจ หมายถึง เกียรติยศสูงสุด เพื่อนมาก ยิ่งใหญ่ และเอาแต่ใจ

ทศกัณฐ์ ครองเมืองลงกา นางกาลอัคคี เป็นอัครมเหสี ส่วนพี่น้องเรียงรายครองเมืองอยู่รอบๆ

กุเปรัน พี่ชาย ต่างมารดา ครองกาลจักร

ทัพนาสูร ครองเมืองจักรวาล ตอนนี้ โขนที่โรงละครแห่งชาติกำลังเล่นตอนศึกทัพนาสูร อยู่ ไปตามดูกัน จะเข้าใจ วาทะทศกัณฐ์ ที่สามารถเอาพี่น้องไปตายแทนได้

อัครธาดา ครองเมืองวัทกัน มารัน ครองเมืองโสฬส ขร ครองเมือง โรมคัล ทุษณ์ ครองเมืองจารึก ตรีเศียร ครองเมืองมัชวารี นางสำมนักขา ให้เป็นคู่ครองชิวหายักษ์ พิเภกกับกุมภกรรณ น้องแท้ๆ ให้อยู่กับทศกัณฐ์ในกรุงลงกา

ดวงประเทียบทศกัณฐ์

เมื่อทศกัณฐ์ครองกรุงลงกานั้นมีสหายรักอยู่ ๗ องค์ อัศกรรณ ไพจิตร สัทธาสูร มูลพลัม จักรวรรดิ สัตลุง และ มหาบาล

ที่เขียนมายืดยาว ไม่ต้องจำ แค่รู้ ก่อนวางดาว ๑ ให้ถูกราศี

ดังนั้น ดาว ๑ กษัตรย์ที่ยิ่งยง ต้องเป็น อุจ สถิตอยู่ราศี เมษ กุมดาว ๖ ในภพ วินาศ ซึ่งท้ายสุด ที่เอ่ยนามว่า ก็วินาศชีวิตถูกผลาญหมด ด้วยภพ วินาศ และ ดาว ๖ พระเคราะห์คู่สมพล แต่ไม่บริสุทธิ์ เป็นประ แสงก็ไม่ใส เพราะใกล้อาทิตย์ ทั้งหมด เพราะสตรีที่งามดั่งเทพธิดา งามแบบดาว ๖ คือ นางสีดา

ดาว ๔ วางตำแหน่งกดุมภะ ราศีเมถุน และวางดาว ๙ ไว้ร่วมกันด้วย

๙ เป็นดาวที่ทำให้ดาว ๔ มีพลัง และเพิ่มพูน งอกเงย

ถ้าจะดูว่าพี่น้องเยอะไหม ปรกติ ก็จะดูภพ ตนุ กดุมภะ และสหัชชะ เมื่อ ทศกัณฐ์มีญาติ เยอะขนาดนั้น จึงให้ดาวชุมนุมที่ภพตนุและกดุมภะ แถมดาว ๙ ที่เพิ่มอิทธิฤทธิ์ยังมีความหมายไปทางอิทธิฤทธิ์ ผิดประหลาด ดาว ๔ ที่ห่างจากดาว ๑ สามราศี เรียกว่า ๔ เพ็ญ มีวาทะเหลือหลาย เครดิตมากมาย ดูเอาเถอะอำนาจยิ่งยง วาทะศิลป์เป็นฤกษ์ขนาดไหน ที่ให้พี่น้องไปศึกแทนได้ ขอพรพระอิศวรก็ได้ ดังที่รู้กัน

เป็นอันว่า ได้ตำแหน่งดาว เกือบครบ ดาว ๑๖ ที่ราศีเมษ ดาว ๔๙ ที่ราศีเมถุน ทั้งเมษ และเมถุน ต่างอุ้ม ปกป้องลัคนา เป็นดวงสามเหลี่ยม ที่มีอำนาจมาก เหมือนดวงหนุมาน ที่ได้ดวงสามเหลี่ยมเช่นกัน

ทศกัณฐ

ทีนี้ก็เหลือ ดาว ๕ เรามาดูกัน หรือ ลองทายไหมว่า อาจารย์จะวางดาว ๕ เจ้าเรือนราศีธนูภพ มรณะ ไว้ที่ไหน

เรียนโหราศาสตร์ จากวรรณคดี เรื่อง รามเกียรติ์/๑๗ โดย อาจารย์แอน

เรียนโหราศาสตร์ จากวรรณคดี เรื่อง รามเกียรติ์/๑๗  

โดย อาจารย์แอน

ดวงประเทียบ ทศกัณฐ์ ๖

หลายคนเจอดวงประเทียบ ทศกัณฐ์ บ่นกันมากมาย ดังนี้

บ่นว่า งง ก็ช่วยไปอ่านตั้งแต่ดาวเกษตร ภพ เรือน มาที่เขียนมาเป็นลำดับ เพราะตอนนี้ค่อยๆ สอนจากวรรณคดี ถึงความสัมพันธ์ของดาวต่างๆ ถ้าไม่ได้ติดตามมาแต่ต้น ก็งง เป็นธรรมดา

บ่นว่า ไม่เข้าใจ ก็ช่วยไปอ่านตั้งแต่ตอนต้นเรียงลำดับสักสามเที่ยว

บ่นว่า อุ่ย.. อะไรเนี่ย ก็ช่วยไปอ่านมาตั้งแต่ต้นใหม่น่ะ สรุปแล้ว ไปอ่านเรียงลำดับมา

ปัดโธ่ ใครว่าโหราศาสตร์เรียนง่ายเล่า พอรู้ดูเป็นน่ะง่าย แต่ไปดูให้คนอื่น แนะนำเขาไม่ถูก ก็เป็นบาปมาถึงครูบาอาจารย์ ไม่ต้องมากราบไหว้ยายมาเป็นอาจารย์นะ กรรมที่ทำไว้ดูผิดดูถูกน่ะ ยายไม่รับ ถ้าเขาสรรเสริญมา ค่อยบอกว่าเป็นศิษย์ยาย อันนี้รับบุญด้วย ครูที่ฉลาดเขาทำอย่างนี้ทั้งนั้นแหละ

พอเรียนๆ ไป ไม่ถึงไหน ถามว่า รับดูดวงไหม อันนี้ตอบว่า ไม่รับ แต่จะตอบให้ปัญหาสองปัญหา กลับไปอ่านไล่เรียงมาจะได้รู้นโยบาย ถ้าเดือดร้อนหนัก ก็ต้องปรึกษากันเป็นเรื่องเป็นราว ชนิดมาลองภูมิ ดูหมอไปอย่างนั้น แล้วก็ลืม ไม่ดูให้เสียเวลา เสียสมองแก่ๆ ของยาย เข้าใจนโยบายนะ ยังไม่มีกำหนด และคำสั่งเปลี่ยนแปลง

โขนรามเกียรติ์ ยกรบ

ใครผูกดวงประเทียบเป็น น่ะได้เปรียบ

เวลาใครเขามารำพึงรำพันชีวิตรันทด เล่าประวัติมา เราก็ฟังให้จบ ผูกดวงประเทียบในใจ เหมือนบวกเลขในใจ พอรำพันจบ ผูกดวงประเทียบเสร็จพอดี เอาดาวจรมาผสมทายได้เลย ถ้าผู้รำพันจะทำหน้าตกตลึงว่าสงสัย องค์ลง กุมารทองมาบอก ก็ต้องบอกตามตรงน่ะ ว่าผูกดวงประเทียบตามที่แกรำพันนั่นแหละ ถ้าไปแสดงว่า องค์ลง ยายรู้จะตามไปแพ่นกบาล อันนี้เฉพาะศิษย์นะ ที่เข้ามาสังเกตการณ์ ก็สังเกตไป มิใช่ศิษย์ มิพาดพิง มิกล่าวถึง มิได้ว่าอะไร

ดวงประเทียบน่ะ อ่านหลายรอบ ปัญญาจะค่อยๆ ผุด เหมือนดอกบัวในโคลน ค่อยๆ มา กลับไปอ่านทวนก่อน เดี๋ยวจะต่อ ถึงดาวดวงอื่นต่อไป ถ้าไม่อ่านทวน ระวังเรียนมากๆ  ดอกบัวจะเหี่ยว

เรียนโหราศาสตร์ จากวรรณคดี เรื่อง รามเกียรติ์/๑๖ โดย อาจารย์แอน

เรียนโหราศาสตร์ จากวรรณคดี เรื่อง รามเกียรติ์/๑๖  ดวงประเทียบ ทศกัณฐ์

โดย อาจารย์แอน

ดวงประเทียบ ทศกัณฐ์ ๕

          ด้วยกรรมเก่า เกิดมาผิดแผกแตกต่าง จึงให้ดาว ๐ อยู่ร่วมกุมลัคน์

ดาว ๐ เป็นดาวเภทภัย ไปอยู่ร่วมดาว ๓ และดาว ๗ ไม่ธรรมดา ดาว ๐ เหมือนดอกต้อยติ่งงอกไปเรื่อย ระเห็จไปไกล และชอบหาเรื่อง ดูประวัติต่อไป ทำไมถึงให้กุมลัคน์ ไม่ไปอยู่ที่อื่น

เมื่อไปร่ำเรียนกับฤๅษีโคบุตร        
ตั้งจิตปรนนิบัติพระอาจารย์ 

เรียนวิชาการเรียนเป็นนิจไป

ว่องไวในที่ธนูศร 

ชำนาญการยิงแม่นหาผิดไม่

        ทั้งไตรเพทเวทมนต์สิ่งใด 

        ก็จำได้ด้วยไวปัญญา

ปุเรกัน

ทีนี้เก่งแล้วก็อวดเก่ง เรียนแล้วก็ใช้ความรู้ในทางที่ผิด ไปมีเรื่องมีราวหลายครั้งให้อาจารย์ฤๅษีไปช่วย จนกระทั่งไปแย่งบุษบกแก้วของกุเปรันพี่ชาย กุเปรันสู้ไม่ได้ ดูสิเก่งขนาดนั้น จะให้ไปอยู่พิจิก เป็นแมลงป่องซ่อนตัวกระไรได้ แต่ขี้โกงและเกเร กุเรปันวิ่งไปขอให้พระอิศวรช่วย พระอิศวรจึงตัดงาช้างทรงขว้างไปปักอกทศกัณฐ์ แล้วสาปอีกให้ปักไว้จนตาย ทศกัณฐ์ต้องไปอ้อนวอนให้ท่านวิษณุกรรม เลื่อยงาออก แล้วทำเครื่องประดับติดไว้

ทั้งถูกสาป กรรมเก่า หน้าตาประหลาด คือ ดาว ๐ กุมลัคน์ คู่ดาว ๓ คือ โดนอาวุธ อิจฉา เกเร คือ ๗๐ มีอำนาจ มีฤทธิ์ ฟ้าดินสะเทือน ก็ ดาว ๗ มหาจักร กุม ๐ ดาว ๘ เล็ง 

๘๐ เล็งตรง ๑๘๐ องศา เพราะฤกษ์กลางราศีเหมือนกัน แปลว่า อิทธิพล

๗๘ คู่มิตรเล็งกัน ทำให้มิตรเดือดร้อน พี่น้องเดือดร้อน เพราะเป็นภิณทุบาทว์ด้วย

๓๐ กุมกัน มักต้องอาวุธ ผ่าตัด

๓๘ เล็งกัน โทสะจริตแรงกล้า เจ้าชู้ มักก่อเรื่องใหญ่

เป็นอันว่า ได้ตำแหน่งดาว ๐ อีกดวง

พระรามมีดาว ๕ ดวงกุมลัคนา

ทศกัณฐ์ มีดาว ๔ ดวงร้ายเรียงกันเป็นเส้นตรง แพ้ชนะ เฉือนกันเส้นเดียว บุญฤทธิ์กับอิทธิฤทธิ์ จึงแตกต่างกัน

เรียนโหราศาสตร์ จากวรรณคดี เรื่อง รามเกียรติ์/๑๕ โดย อาจารย์แอน

เรียนโหราศาสตร์ จากวรรณคดี เรื่อง รามเกียรติ์/๑๕  ดวงประเทียบ ทศกัณฐ์

โดย อาจารย์แอน

พระรามรบทศกัณฐ์

ดวงประเทียบ ทศกัณฐ์ ๔
          ทศกัณฐ์ กำเนิดมาแตกต่างจากทั่วไป อย่างเราไปดูโขน ยักษ์ออกมาเป็นสิบ ถึงไม่นั่งแท่นครองเมืองก็รู้ว่าเป็นทศกัณฐ์ใช่ไหม ก็ชัดเจนว่า สิบหน้า ยี่สิบกร แถมหน้าอกยังมัดสังวาลย์ปิดไว้

เรามาดูประวัติ เพื่อวางดวงกันก่อน ด้วย ๓ ขี่โค คือ สถิตที่ราศีพฤษภ ซึ่งทางโหราศาสตร์ไทยมีดาว ๖ เป็นเจ้าของบ้าน ทั้ง ๘ แฝงเป็นเงาเจ้าเรือน ทำให้ทศกัณฐ์มีเมียเป็นจำนวนมากถึง ๘๔,๐๐๐ นาง มเหสีองค์แรก คือ นางกาลอัคคี ธิดาพระยานาค มีบุตรชื่อ บรรลัยกัลป์ ต่อมาได้นางมณโฑ มีบุตรชื่อ รณพักตร์ หรือ อินทรชิต และนางสีดา ที่พิเภกทำนาย และ ฯลฯ จนถึงช้าง และนางปลา ต่อมาล้มหายตายจาก เพราะการรบ

ยังไม่มีตรงไหนที่ชอบแย่งเมียชาวบ้าน และ ดาว ๓๘ ก็ไม่ได้แปลว่าชอบ ผิดผัวผิดเมีย เพียงอย่างเดียว ส่วนที่ได้นางสีดา เพราะกรรม ที่ต้องมารบกับพระราม ที่เขาให้เกิดมาเป็นลูกทศกัณฐ์ เพราะมาอยู่กับทศกัณฐ์ สิบสี่ปี ทำเจ้าชู้ยักษ์ไม่ได้ เข้าใกล้ไม่ได้ ให้ร้อนดุจไฟเผานั่นแหละ ส่วนที่ต้องไปลักจากพระราม เพราะต้องสาป ที่มาเป็นศัตรูกัน ล้างเผ่าพันธุ์ตามที่พระนารายณ์ลั่นวาจาไว้ ว่า สิบหน้า ยี่สิบมือ กูเป็นมนุษย์ธรรมดา จะมาปราบให้จงได้

ผังวงศ์ทศกัณฐ์

ดังนั้น เราจึงไปกำหนดชะตาให้ไปแย่งเมียชาวบ้านไม่ได้ แค่คนเดียวจาก ๘๔,๐๐๐

เรียนโหราศาสตร์ จากวรรณคดี เรื่อง รามเกียรติ์/๑๔ โดย อาจารย์แอน

เรียนโหราศาสตร์ จากวรรณคดี เรื่อง รามเกียรติ์/๑๔  โดย อาจารย์แอน

ดวงประเทียบ ทศกัณฐ์ ๓

ส่วนศิษย์ที่มองว่า ควรมีดาว ๘ อยู่ด้วย เพื่อแสดงความเป็นยักษ์ เมื่อลัคนาสถิตราศีพฤษภ โรหิณี ภูมิปาโลฤกษ์ ตามนิยายดาวของโหรโบราณบอกอยู่แล้วว่าดุเหมือนยักษ์ แต่ตนุลัคน์ ซึ่งหลายตำราให้ครองราศีพฤษภด้วย เทียบเท่าตนุลัคน์ ให้สถิตราศีพิจิก อันเป็นราศีตรงข้าม อยู่ในตำแหน่ง ทั้งประ ภินธุบาทว์ แปลว่า ดวงแตก และเป็นราชาโชคด้วย คือ เป็นยักษ์หลง ขี้อิจฉา ผิดทำนองครองธรรม แต่ก็ยังมีโชคมีคนช่วยตลอด ให้สถิตเพชฌฆาตฤกษ์ คือ ให้คนอื่นไปตายแทน แล้วถูกพิฆาตด้วย

การผูกดวงประเทียบ เน้นย้ำ ต้องละเอียดครอบคลุม

ดวงประเทียบ ทศกัณฐ์

ตอนนี้เราได้ดาวมาสามดวง ถึงพร้อมด้วยลัคนา ดาวกุมลัคน์ เราได้หลักวิชามาสี่ห้าหลัก คือ

๑. การเลือกลงลัคนา ต้องรู้ไปถึง ดาวที่กุมลัคนาว่าจะมีอำนาจทางใด ที่จะสอดคล้องกับบุคคลที่เราตั้งไว้ ต้องรู้ประวัติ และความยิ่งใหญ่ ไปในทางอิทธิฤทธิ์ หรือ บุญฤทธิ์

๒. ดาว ๗ มหาจักร เป็นดาวแรง ลำบาก ดุร้าย จะถึงซึ่งความสำเร็จได้ ต้องปราบดาภิเษก ขนาดนั้น ตายเกือบหมดวงศ์ แต่ก็ยิ่งยงเหลือแสน เพราะเป็นดาวเจ้าเรือน ศุภะ ภพที่เก้าจากลัคนาด้วย

๓ . "อังคารขี่โค" คือ ดาวเจ้าชู้ให้ดูทศกัณฐ์ เป็นตัวอย่าง

๔. ความยิ่งใหญ่ ของบุคคลสำคัญ ที่มีลัคนาอยู่อุตตรกุรุทวีป

๕. ดาวบาปเคราะห์ที่อยู่ตรงข้ามลัคนาหรือ ภพที่ ๗ เป็นภินทุบาทว์

เสาร์เพ่งเล็งลัคน์แล้         อสุรา

ภุมเมศอัษฎา                        ว่าไว้

จันทร์สิบเอ็ดแก่รา                  หูเล่า

                อาภัพอัปรภาคให้                   โทษแท้ประเหินหีน

จากที่ ดาวตนุลัคน์ คือ ๘ สถิตอยู่ราศีพิจิก เราจะรู้ตำแหน่ง ดาว ๒ แล้ว ด้วยคำพยากรณ์ของพิเภก ทำให้รู้ว่า ผู้หญิงจะนำความหายนะมาสู่กรุงลงกา ดังนั้น ดาว ๒ ต้องอยู่ในตำแหน่งภินทุบาทว์ของดาว ๘ อย่างแน่นอน นับดาว ๒ เป็นสิบเอ็ดเนี่ย ต้องนับตามโคจรของดาว ๘ นะคือ นับย้อน ก็จะได้ ดาว ๒ เป็นประในราศีมังกร นั่นเอง และถือเป็นตำแหน่ง ราหูล่าจันทร์ด้วย แปลว่า หาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัว 

ค่อยๆ เคี้ยวไปนะ แล้วที่ค้านน่ะ อย่าเพิ่ง เรียนให้จบ ให้แตกฉานก่อน ค่อยถาม

เรียนโหราศาสตร์ จากวรรณคดี เรื่อง รามเกียรติ์/๑๓ โดย อาจารย์แอน

เรียนโหราศาสตร์ จากวรรณคดี เรื่อง รามเกียรติ์/๑๓  

โดย อาจารย์แอน

ดวงประเทียบ ทศกัณฐ์ ๒

          จากที่มีผู้ค้านและแย้งว่า ลัคนาน่าจะอยู่ราศีพิจิก ขออธิบายก่อนว่า อันดวงประเทียบ แท้จริงคือ ดวงสมมติที่ผูกขึ้นไว้สอนศิษย์ ยายจะสอนอย่างนี้มาค้านทำไม ก็สงสัยเหมือนกันน่ะ

ถ้าให้ลัคนาอยู่พิจิก ด้วยเหตุผลที่ว่า อยู่ตรงข้ามพระราม นั้นเป็นความคิดฝ่ายเดียว ถ้างั้น คนที่มีลัคนาอยู่ตรงข้ามกันมิต้องเป็นศัตรูกันหมดหรือ ราศีพิจิก ไม่ยิ่งใหญ่พอ เพราะมีฤกษ์สถิตอยู่สามฤกษ์ ที่เป็นฤกษ์ที่อ่อนมาก ไม่สมกับทศกัณฐ์ คือ เพชฌฆาตฤกษ์ ราชาฤกษ์หรือ อนุราธะ คือ ราชาเล็กๆ ที่ป่วยบ่อย และสมโณฤกษ์ ทศกัณฐ์ไม่ได้บวชในบั้นปลาย นอกจากนี้ถ้ามีดาวกุมลัคน์ เพื่อให้ลัคนาเข้มแข็ง จะเอาดวงไหนที่มีอำนาจมากพอ เท่า ๗ มหาจักร ในราศีพฤษภ เพราะถ้าเอา ๗ ๘ กุมในราศีพิจิก อำนาจเพียงราชาโชค จะเอา ๕ มหาจักรรึก็ไม่ใช่บุญฤทธิ์ นักปราชญ์อีก จะเป็นลัคนาเดี่ยวอำนาจ แรงน้อยไป และข้อสำคัญ ทศกัณฐ์ ไม่ได้อวดอ้างฤทธีดังแมงป่อง ทศกัณฐ์ เป็นศิษย์ของฤๅษีโคบุตรตั้งแต่อายุสิบสี่ ทั้งได้รับพรจากพระอิศวรอีก

ทศกัณฐ์

เวลาไปดูโขน แล้วคิดในใจ ตอนทศกัณฐ์ ออก ว่าอยู่พิจิกราชาน้อยๆ กับ ราศีพฤษภ ภูมิปาโลฤกษ์ อันไหนจะยิ่งใหญ่กว่ากันล่ะ

เรียนโหราศาสตร์ จากวรรณคดี เรื่อง รามเกียรติ์/๑๒ ดวงประเทียบทศกัณฐ์ โดย อาจารย์แอน

เรียนโหราศาสตร์ จากวรรณคดี เรื่อง รามเกียรติ์/๑๒  ดวงประเทียบทศกัณฐ์

โดย อาจารย์แอน

ดวงประเทียบของทศกัณฐ์ ๑

ก่อนอื่นขอเน้นอธิบาย ของ ดวงประเทียบ เป็นดวงที่โหรโบราณผูกขึ้นมาตามประวัติ บุคคลสำคัญจากเรื่องราว ตำนาน วรรณคดี เพื่อไว้สอนศิษย์แทนการ ท่องจำ คือแทนที่จะเอาดวงตัวเองเรียน เพราะจะมีคำถามเกี่ยวกับตัวเองวุ่นวาย มีศิษย์มากมายจะเรียนดวงใครก็ไม่ดี เหมือนนั่งดูดวงให้ศิษย์ ใช้ครูบาอาจารย์ แทนที่จะได้วิชากลับได้บาป ท่านจึงคิดผูกดวงประเทียบของตัวเอกในตำนาน หรือ วรรณคดี อวตารของเทพเจ้า เพื่อให้ศิษย์ร่ำเรียน ได้หลักวิชาอย่างแท้จริง

การผูกดวงประเทียบได้ ต้องเป็นครูโหรจริง มีหลักรอบรู้เพียงพอที่จะครอบคลุมทั้งหลักวิชาและตำนาน วรรณคดี ความเชื่อของคนโบราณ 

ดวงประเทียบที่สอนกันในหน้านี้ ยายผูกเองล้วนๆ ไม่ได้ลอกมาจากตำราไหน ไปหาใน กู เกิ้ล ไหนไม่มี มีแต่ กูเอิ้นเอง เข้าใจละนะ ดวงประเทียบคืออะไร ไม่ใช่ดวงคนจริงๆ เดี๋ยวจะมีใครเผลอ ไปทำบุญอโหสิกรรมให้ทศกัณฐ์

ที่วางลัคนาไว้ที่ราศีพฤษภ มีเหตุสำคัญดังนี้

•     คำว่า "อังคารขี่โค" หมายถึงเจ้าชู้ แบบสุดยอด มีเมียมากมาย ทศกัณฐ์นี่ขึ้นชื่อ ตอนเป็นนนทุกก็ไล่ปล้ำนางฟ้า จนพระนารายณ์ต้องแปลงเป็นอัปสรมาร่ายรำ จนนนทุกชี้นิ้วเพชรที่ได้รับพรมาที่ตัวตาย กลับชาติมาเกิด ก่อนตายเอ่ยคำกัดๆ ไว้ว่า ตนแพ้เทพสี่กร พระนารายณ์ เลยบอกว่า ให้ไปเกิดใหม่มีสิบเศียร ยี่สิบหน้า จะขอมีเพียงสองมือจะตามลงไปปราบให้ได้

ถึงตรงนี้ก็พิจารณาว่า ในเมื่อ ดาว ๕ เด่นในทางบุญฤทธิ์ ทั้งพระราม และหนุมานทหารเอก ได้ไปเต็มๆ ดาว ๗ นี่แหละ ตำแหน่งมหาจักรในราศีพฤษภ ทั้งดาว ๗ มีกำลัง ๑๐ ก็สิบหน้า 

ส่วนความเจ้าชู้ที่มากับตัว ดาว ๓ ขี่โค คือ ราศีพฤษภอีก

ดังนั้น วางลัคนา ที่ราศีพฤษภ เกิดในโรหิณี ตามนิยายดาว เป็นฤกษ์ของนางยักษ์ดุร้าย คือ โรหิณี ภูมิปาโลฤกษ์ ที่เป็นฤกษ์ของแผ่นดินของกษัตริย์ 

สรุปได้ว่า วางลัคนาที่พฤษภ ก็จะได้ครบตามประวัติมากมาย แถมดาวที่อยู่ด้วยกันกับลัคนา

ดวงประเทียบ ทศกัณฐ์

ที่เรียกว่า ดาวกุมลัคน์

ดาวกุมลัคน์ มีอิทธิพลมากมาย แถบจะบอกเรื่องราวของตนเอง ทั้งอดีต ปัจจุบันและอนาคต

ทศกัณฐ์ครองเมืองลงกา รังกา มีสีดำ ก็เป็นสีของดาว ๗ อีก มีฐานะสูงส่ง ด้วยลัคนาสถิตอยู่ อุตตรกุรุทวีป ดวงดาวจะมีกำลังมาก เป็น มหาจักร ฤทธิ์เดชมากมาย แต่ก็เห็นแก่ตัว คับแคบ หวาดระแวง เอาแต่ใจสมเป็นดาว ๗ มีสิบหน้า อีก กำลังของดาว ๗ แท้ๆ น่าจะแถมอีกนิดว่า เกิดวันเสาร์ ด้วยซ้ำไป

          ทบทวนนะ ว่าที่ตอบมาน่ะ ใกล้เคียงกับ คำว่า ถูก กี่เปอร์เซ็นต์ จะสอนต่อถึงดาวดวงอื่นต่อไป โปรดติดตาม อ้อ..ไม่ต้องถามนะว่า ผม หนู มีดาว ๓ อยู่ราศีพฤษภ ขี่โคด้วยหรือเปล่า กุมลัคนาหรือเปล่าล่ะ กฎเกณฑ์นี้ ต้องกุมลัคน์ ถึงจะมีผลเต็มร้อย ถ้าไม่กุมลัคนา ก็มีผลรองลงมาแล้วแต่มีดาวช่วยขนาดไหน แต่ถ้าเจ้าชู้จริง ก็ยอมรับไปซะ ไม่ต้องหาดาวช่วย

เรียนโหราศาสตร์ จากวรรณคดี เรื่อง รามเกียรติ์/๑๑ โดย อาจารย์แอน

เรียนโหราศาสตร์ จากวรรณคดี เรื่อง รามเกียรติ์/๑๑
โดย อาจารย์แอน

ถึงบุคคลสำคัญ ที่ทำความเดือดร้อนตั้งแต่บนสวรรค์ชั้นฟ้ามาถึงโลกมนุษย์

เมื่อนั้น                               ฝ่ายนางรัชดามเหสี

องค์ท้าวลัสเตียนธิบดี                      เทวีมีราชบุตรา

คือว่านนทกมากำเนิด                      เกิดเป็นพระโอรสา

ชื่อทศกัณฐ์กุมารา                          สิบเศียรสิบหน้ายี่สิบกร

อันน้องซึ่งถัดมานั้น                         ชื่อกุมภกรรณชาญสมร

องค์พระบิตุเรศมารดร                      มิให้อนาทรสักนาที

นนทก

          เมื่อทศกัณฐ์ อายุ ๑๔ ปี ก็ลาพระบิดามารดาไปเรียนวิชากับฤๅษีโคบุตรจนสำเร็จ ทศกัณฐ์ มีพี่น้อง ด้วยพระอิศวรส่องตาทิพย์ลงไปรู้ว่า ทศกัณฐ์ไม่มีใครปราบได้ ทั้งได้ส่งนารายณ์อวตารมาแล้ว ก็ต้องส่งไส้ศึกเวสสุญาณ ไปเกิดร่วมวงศ์เป็นญาติกับทศกัณฐ์ เพื่อเป็นไส้ศึกอยู่ในเมืองยักษ์ ใครที่ใช้นามแฝงว่าพิเภก รับกระแสไปเต็มๆ คือ ก็เป็นไส้ศึก ถูกขับออกจากเมือง ลำบากก่อนสบายในภายหลัง เลือดตาแทบกระเด็นไปพร้อมกับพระราม

ก่อนจะผูกดวงประเทียบของทศกัณฐ์ เพื่อการศึกษา เรามาดูที่มาของเมืองลงกาก่อน

เริ่มแต่ท่านสหบดีพรหม อยู่วิมานเป็นสุขอยู่ดีๆ ก็คิดถึงเพื่อนสหมลิวัน ที่ครองเมืองบาดาล แต่เดิมเคยครอง เมือง รังกา เน้น รังกา นะไม่ใช่ลงกา แต่เหตุจำเป็นต้องหนีพระนารายณ์ไปอยู่เมืองบาดาล ทำให้รังกากลายเป็นเมืองร้าง

ท่านท้าวสหบดีพรหมเกรงว่าจะสูญวงศ์พรหมไป ต้องการสืบสานให้ดำรงอยู่ จึงให้เหล่าพรหมเหาะตรงไปยังเมืองรังกา แลเห็นภูเขานิลกาลาซึ่งมีสีดำ สูงกว่าที่อื่นอยู่ท่ามกลางมหาสมุทร จึงให้วิษณุพรหมเนรมิตรสร้างเมือง และตั้งชื่อว่า ลงกา แล้วให้ ธาดาพรหม จตุรพักตร์ ไปครองเมือง ถือเป็นต้นวงศ์ทศกัณฐ์ ทั้งนี้ เวลาไปดูโขนยกรบ เราจึงเห็นธงประจำฝ่ายกรุงลงกา เป็นรูปของพระพรหม เพราะสืบวงศ์มาจากพระพรหม

               เห็นนิลกาลาสิงขร                  ยอดเยี่ยมอัมพรไพศาล

อยู่กลางพิภพเป็นประธาน         สูงตระหง่านเงื้อมง้ำเมฆา

ใหญ่หลวงกว่าหมู่ศิขริน            สีดำดั่งนิลวัตถา

ปลายยอดนั้นมีรังกา               มหากายสิทธิ์ฤทธิไกร

เขานี้ประเสริฐนัก                    เห็นจะเป็นหลักกรุงได้

จึงสั่งวิษณุพรหมชาญชัย           ให้เร่งนิมิตธานี

ทศกัณฐ์

เราตั้งลัคนาไว้ที่ ราศีพฤษภ รู้ไหมว่าเพราะอะไร อย่าบอกนะ เพราะยายนั่งทางในเห็นดวงทศกัณฐ์ ..ไร้สาระน่า