เรียนโหราศาสตร์
จากวรรณคดี เรื่อง รามเกียรติ์/๑๔ โดย อาจารย์แอน
ดวงประเทียบ ทศกัณฐ์ ๓
ส่วนศิษย์ที่มองว่า ควรมีดาว ๘
อยู่ด้วย เพื่อแสดงความเป็นยักษ์ เมื่อลัคนาสถิตราศีพฤษภ โรหิณี ภูมิปาโลฤกษ์
ตามนิยายดาวของโหรโบราณบอกอยู่แล้วว่าดุเหมือนยักษ์ แต่ตนุลัคน์ ซึ่งหลายตำราให้ครองราศีพฤษภด้วย
เทียบเท่าตนุลัคน์ ให้สถิตราศีพิจิก อันเป็นราศีตรงข้าม อยู่ในตำแหน่ง ทั้งประ
ภินธุบาทว์ แปลว่า ดวงแตก และเป็นราชาโชคด้วย คือ เป็นยักษ์หลง ขี้อิจฉา
ผิดทำนองครองธรรม แต่ก็ยังมีโชคมีคนช่วยตลอด ให้สถิตเพชฌฆาตฤกษ์ คือ
ให้คนอื่นไปตายแทน แล้วถูกพิฆาตด้วย
การผูกดวงประเทียบ เน้นย้ำ ต้องละเอียดครอบคลุม
ตอนนี้เราได้ดาวมาสามดวง ถึงพร้อมด้วยลัคนา ดาวกุมลัคน์ เราได้หลักวิชามาสี่ห้าหลัก
คือ
๑. การเลือกลงลัคนา ต้องรู้ไปถึง
ดาวที่กุมลัคนาว่าจะมีอำนาจทางใด ที่จะสอดคล้องกับบุคคลที่เราตั้งไว้
ต้องรู้ประวัติ และความยิ่งใหญ่ ไปในทางอิทธิฤทธิ์ หรือ บุญฤทธิ์
๒. ดาว ๗ มหาจักร เป็นดาวแรง ลำบาก ดุร้าย
จะถึงซึ่งความสำเร็จได้ ต้องปราบดาภิเษก ขนาดนั้น ตายเกือบหมดวงศ์
แต่ก็ยิ่งยงเหลือแสน เพราะเป็นดาวเจ้าเรือน ศุภะ ภพที่เก้าจากลัคนาด้วย
๓ . "อังคารขี่โค" คือ ดาวเจ้าชู้ให้ดูทศกัณฐ์
เป็นตัวอย่าง
๔. ความยิ่งใหญ่ ของบุคคลสำคัญ ที่มีลัคนาอยู่อุตตรกุรุทวีป
๕. ดาวบาปเคราะห์ที่อยู่ตรงข้ามลัคนาหรือ ภพที่ ๗ เป็นภินทุบาทว์
เสาร์เพ่งเล็งลัคน์แล้ อสุรา
ภุมเมศอัษฎา ว่าไว้
จันทร์สิบเอ็ดแก่รา หูเล่า
อาภัพอัปรภาคให้ โทษแท้ประเหินหีน
จากที่ ดาวตนุลัคน์ คือ ๘ สถิตอยู่ราศีพิจิก เราจะรู้ตำแหน่ง ดาว ๒
แล้ว ด้วยคำพยากรณ์ของพิเภก ทำให้รู้ว่า ผู้หญิงจะนำความหายนะมาสู่กรุงลงกา
ดังนั้น ดาว ๒ ต้องอยู่ในตำแหน่งภินทุบาทว์ของดาว ๘ อย่างแน่นอน นับดาว ๒
เป็นสิบเอ็ดเนี่ย ต้องนับตามโคจรของดาว ๘ นะคือ นับย้อน ก็จะได้ ดาว ๒
เป็นประในราศีมังกร นั่นเอง และถือเป็นตำแหน่ง ราหูล่าจันทร์ด้วย แปลว่า
หาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัว
ค่อยๆ เคี้ยวไปนะ แล้วที่ค้านน่ะ อย่าเพิ่ง เรียนให้จบ ให้แตกฉานก่อน
ค่อยถาม