พยากรณ์วันพุธที่ ๒ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๘ โดย อาจารย์แอน

พยากรณ์วันพุธที่ ๒ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๘
โดย อาจารย์แอน

          คิดทำสัญญา เจรจาตกลงอะไร วันนี้สามารถทำได้ ผลออกมาค่อนข้างไปในทางดี แต่ยังไม่ได้เต็มร้อย การจัดเตรียมงาน ยังมีข้อบกพร่อง ต้องตรวจสอบซ้ำ แก้ไขล่วงหน้าและเฉพาะหน้า อย่าหงุดหงิดจะเสียงาน น้อยใจยิ่งไม่ได้งาน การงานยังไม่ค่อยได้ดังใจ ยังไม่ได้ตามกำหนด เครื่องจักร บริวาร ยังต้องปรับปรุง ทั้งยังต้องควบคุมค่าใช้จ่าย บางเรื่องยังไม่จำเป็น รอได้ ก็ต้องรอ วัยศึกษา จะสำเร็จได้ ที่ปรึกษา ต้องดี ใกล้สิ้นปี มีอะไรทำมากมาย จนลืมสิ่งที่ควรทำ


สีดี เหลือง ครีม เขียว



คติวันนี้หนักเอาเบาสู้ อดทน จะนำมาซึ่งความสำเร็จ

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๖/๒ โดย อาจารย์แอน

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๖/๒
โดย อาจารย์แอน


          เมื่อโจโฉ อายุได้ ๒๐ ปี ซึ่งเป็นอายุของ ดาว ๔ โจโฉ ก็รับราชการเป็นทหารในพระนครลกเอี๋ยง ชีวิตก็เริ่มต้นนับหนึ่ง ตั้งแต่ตอนนั้น


โจโฉแสดงความมีอำนาจเด็ดขาดของตนตั้งแต่ตอนนั้น ตั้งไม้เรียวอาญาสิทธิ์ ๕๐ อัน ไว้ทั้ง ๔ ประตู ออกประกาศ ห้ามประชาชนถืออาวุธในยามวิกาล ขนาดอาของขันทีผู้ใหญ่ออกจากบ้านยามวิกาล (คงไปหาเมียน้อย) ยังถูกจับมาเฆี่ยนตีเสีย ๑๕ ที


โจโฉ เป็นคนหนึ่งที่กล้าห้ามโฮจิ้น นำตั๋งโต๊ะมาปราบขันทีทั้ง ๑๐ เป็นคนมองการณ์ไกล อันเป็นอิทธิพลของดาว ๔ อีกเช่นกัน


ครั้งหนึ่งอาสาอ้องอุ้นฆ่าตั๋งโต๊ะ โดยพกมีดสั้นเล็ก ๆ เข้าไป แต่ทำการไม่สำเร็จ ตั๋งโต๊ะไหวทันเสียก่อน โจโฉหนีไปได้ โจโฉตั้งใจจะหนีไปหาพ่อของตนเพื่อรวบรวมคน แต่เมื่อมาถึงเมืองจงพวน ก็ถูกจับเสียก่อน โดยมีตันก๋ง ผู้เป็นเจ้าเมืองเป็นคนสอบสวน แต่เนื่องจากตันก๋งนั้นมีใจนิยมโจโฉ จึงลอบไปหาตอนกลางคืน แสดงความชื่นชมในความกล้าหาญที่ลอบฆ่าทรราชตั๋งโต๊ะ แล้วพาโจโฉหนีไปด้วยกัน ต้องการร่วมมือกับโจโฉ เพื่อปราบทรราช


แต่ตอนที่หนีไปด้วยกัน เกิดเห็นนิสัยที่แท้จริงของโจโฉเสียก่อน คือ ก่อนจะถึงบ้านของพ่อ ก็ต้องผ่านบ้านเพื่อนพ่อก่อน มีนามว่า แปะเฉียซึ่ง แปะเฉีย ก็มีน้ำใจ ให้การต้อนรับ โจโฉกับตันก๋ง เป็นอย่างดี แต่ว่าดีเกินไป คือ เมื่อทั้งสองเดินทางไปถึง เป็นเวลาเย็น แปะเฉียเชื้อเชิญให้ทั้งสองเข้าไปพักผ่อน แล้วตนเองก็เข้าไปในบ้านสั่งให้ทำหมูและไก่เลี้ยงแขก สักครู่ใหญ่ก็ออกมาบอกกับโจโฉว่า สุราดีไม่มีดื่ม ข้าพเจ้าจะไปตลาดจะหามาให้ ว่าแล้วก็รีบออกจากบ้านไป


ทีนี้ ตอนที่โจโฉกับตันก๋งนั่งอยู่ในบ้านเกิดได้ยินเสียงลับมีด (เป็นเราคงเข้าไปช่วยในครัว ตำส้มตำให้เป็นที่สำราญ) แต่โจโฉ ขี้ระแวงก็พูดกับตันก๋งว่า แปะเฉีย เป็นเพื่อนเกลอของบิดาข้าพเจ้าก็จริง แต่เข้าไปตลาดนานแล้วไม่เห็นกลับมา เห็นทีจะไปบอกผู้ใหญ่บ้านให้มาจับตัวเรากระมัง ควรไปดูลาดเลาเสียหน่อยแล้ว


ทั้งสองก็ค่อย ๆ ย่องไปหลังบ้าน เกิดได้ยินเสียงคนปรึกษากันว่า มัดไว้ก่อนดี หรือจะเชือดทีเดียว เพียงได้ยินนะคะ ไม่ได้โผล่หน้าออกไปดู ขวัญบินแล้ว เข้าใจว่า คนในบ้านคิดการจะจับตัว ก็บอกกับตันก๋งว่า คิดแล้วไม่มีผิด จะเล่นงานเราแน่ ๆ ถ้าไม่ฆ่ามันก่อน มันคงต้องฆ่าเรา


ในทันทีนั้น คนทั้งสองก็ชักกระบี่ออกมา ไล่ฆ่าผู้คนและลูกเมียของแปะเฉียตายหมดสิ้น รวม ๘ คน แต่พอเข้าไปเห็นหมูตัวหนึ่งถูกมัดไว้ก็ตกใจ ตันก๋ง กล่าวว่า นี่เขาเชือดหมูต่างหาก มิใช่มีเจตนาฆ่าเราเลย เรานี้มีโทษผิดมหันต์ ถึงกับฆ่าฟันลูกเมียผู้มีพระคุณ
โหราศาสตร์,ฮวงจุ้ย,โหงวเฮ้ง,www.sana-anong.com,ajarn ann team
สามก๊ก: โจโฉ ตันก๋ง แปะเฉีย


โจโฉกับตันก๋ง ก็รีบขึ้นม้าหนีออกจากบ้าน พอมาได้สักครู่ก็สวนทางกับแปะเฉีย มีเหล้าองุ่น ๒ ขวดกับผักผลไม้เยอะแยะไปหมด บรรทุกอยู่บนหลังลา (คืนนี้กะเมาเละ)


แปะเฉีย เห็นบุคคลทั้งสองลุกลี้ลุกลน ก็ส่งเสียงถามว่า จะไปไหนกัน
โจโฉ ก็พูดว่า ข้าพเจ้าเป็นคนมีความผิดติดตัว เห็นจะอยู่นานไม่ได้ จะขอลาท่านไปก่อน
แปะเฉีย ยังไม่รู้สึก ก็ตีโพยตีพาย ตามประสาคนที่ซื้อข้าวของมาเยอะ แถมบอกว่า ข้าพเจ้าสั่งฆ่าหมูไว้ที่บ้านแล้ว ทำไมไม่อยู่กินอาหารด้วยกันเสียก่อน
ไหนเลยที่คนทั้งสองจะยอมอยู่ ต่างก็ควบม้าหนีไป พอไปได้ซักระยะ เกิดคิดระแวงอีก เลยหวนกลับมาชักกระบี่ฟันแปะเฉียตาย โดยที่ยังไม่ได้ถามหรือพูดจาอะไรอีกเลย



นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เวลาจะฆ่าสัตว์เลี้ยงแขกต้องออกมาป่าวประกาศบอกให้รู้แจ้งไปเลย และข้อต่อมา คือ ต้องให้แขกที่มาหานั่นแหละ ไปซื้ออาหารมากินเอง เขาจะได้ไม่หวาดระแวงเรา เหมือนอีตาโจโฉ

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๖/๑ โดย อาจารย์แอน

โดย อาจารย์แอน


          เราควรมาทำความรู้จักโจโฉได้แล้ว เพราะเริ่มจะมีบทบาทสำคัญ หลังจากที่ถือกำเนิด รับราชการไต่เต้ามาโดยลำดับ เป็นบุคคลที่สำคัญมากคนหนึ่งในสามก๊ก จัดว่าเป็นตัวเอกทีเดียว 


เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวังหลวงนับตั้งแต่ขันทีครองอำนาจ ในรัชสมัยพระเจ้าเหี้ยนเต้ จนมาถึงยุคตั๋งโต๊ะ โจรโพกผ้าเหลือง สิ้นยุคตั๋งโต๊ะ จนมาถึง ลิฉุย กุยแก ล้วนแล้วแต่เป็นเหตุการณ์ที่สร้างวีรบุรุษทั้งสิ้น


พิเคราะห์ตามพิชัยสงคราม โดยเอาประวัติของโจโฉมาศึกษาโดยละเอียด จะเห็นว่า โจโฉ นั้น อยู่ภายใต้อิทธิพลของดาวพุธ หรือ ดาว ๔ อดไม่ได้ที่จะคิดเป็นดวงประเทียบ เพราะถ้ารู้ลักษณะเด่นของบุคคลเทียบเป็นดวงดาวได้ ก็สามารถดูดาวประจำตัวได้ บนแผ่นฟ้าจริงๆ ตามแบบขงเบ้ง


ย้อนทวนซักนิด โจโฉ เป็นลูกของโจโก๋ เดิมใช้แซ่แฮหัว ภายหลังไปอยู่กับขันทีที่ชื่อ โจเต็ง ในวัง จึงใช้แซ่โจตามผู้เป็นนาย โจโฉมีลักษณะของดาว ๔ คือ ในด้านสติปัญญา เป็นความฉลาดแบบมีปฏิภาณ และแหลมคม เจ้าเล่ห์นิด ๆ ตอนเป็นเด็ก ซุกซน และเกะกะเกเร โจเต็กผู้เป็นอาเกรงว่าจะเสียคน จึงคอยขนาบฟ้องโจโก๋อยู่เสมอ โจโก๋ก็เพียรดุด่าโจโฉไม่เว้นแต่ละวัน


วันหนึ่ง โจโฉแกล้งทำเป็นล้มลง โจเต็กเห็นดังนั้นก็ตกใจรีบไปบอกให้โจโก๋ทราบ โจโก๋ตกใจ นึกว่าโจโฉเจ็บมาก รีบวิ่งมาดูเห็นโจโฉวิ่งเล่นตามปรกติ แถมถามหน้าตาเฉยว่า ใครไปบอกว่าข้าหกล้ม เมื่อทราบว่าโจเต็กไปบอก ก็แกล้งบอกพ่อว่า เขาเกลียดข้า จึงเอาความมิดีไปฟ้องพ่อเสมอ ล้วนแล้วแต่ไม่จริงทั้งสิ้น พ่อซิเชื่อเขาเรื่อยไปนับแต่นั้นมา โจโก๋ก็มิได้เชื่อ โจเต็ก อีกเลย เห็นว่าเป็นคนมีอคติกับเด็ก


ลูกใครเป็นอย่างโจโฉ จะนึกดีใจ หรือเสียใจ ก็ให้เป็นไปตามอัธยาศัยนะคะ นี่คืออิทธิพลของดาว ๔


โจโฉ แสดงถึงความฉลาดเฉลียวมาแต่เยาว์วัย สมัยก่อนมีความเชื่อในเรื่องของการทำนายลักษณะ โจโก๋ก็พาลูกไปหา เขาเฉียว ซึ่งเป็นผู้ที่มีความแม่นยำในการดูลักษณะคน เขาเฉียวดูแล้ว ก็นิ่ง (คงคิดในใจว่า ไอ้เด็กนี่ หน้าตามันเกเร ทายไม่ดีเดี๋ยวมันแกล้ง จึงนิ่งเฉยอยู่)


โจโฉ ก็ถามว่า ข้าพเจ้าภายภาคหน้าจะดีชั่วประการใด ไม่ทายไม่ว่า ขอถามนิดเดียว เขาเฉียว จึงทายว่า ตัวเจ้านี้มีปรีชาสามารถจะครองโลกได้ แต่โลกก็จะเดือดร้อน เพราะปรีชาสามารถของเจ้า เช่นเดียวกัน
อาจารย์แอน,ษณอนงค์, www.sana-anong.com,ajarn ann team
สามก๊ก โจโฉ ที่มา วิกิพีเดีย


เพราะฉะนั้น เด็กทั้งหลาย ถ้าคิดจะเกเร ต้องเกเรให้ได้ตามตำราโหงวเฮ้ง อย่าสุ่มสี่สุ่มห้าเกเรทั้ง ๆ ที่ไม่มีลักษณะ หน้าผากกว้าง คิ้วยาวเฉียงขึ้น ทั้งดกหนา และมิได้มีดวงตากลมโต สุกใส ส่อแววฉลาดแกมโกง เพราะเกเรอย่างไม่มีลักษณะ อาจกลายเป็นเจ้าแห่งกรรมกรมากกว่า เป็นเจ้าครองโลกอย่างโจโฉ

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๕/๒ โดย อาจารย์แอน

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๕/๒
โดย อาจารย์แอน


        วันหนึ่งตั๋งโต๊ะเข้าไปเฝ้าพระเจ้าเหี้ยนเต้ ลิโป้ก็ถือทวนตามไปด้วย แต่ในขณะที่ตั๋งโต๊ะเข้าเฝ้าอยู่ ลิโป้ก็ควบม้ากลับมาหานางเตียวเสี้ยน ซึ่งนางเตียวเสี้ยนก็ ทำเป็นมีใจยินดีแล้วให้ลิโป้ ไปรอที่สวนดอกไม้


นางเตียวเสี้ยนตามลิโป้ไปที่สวนดอกไม้ อันลิโป้นั้น เท่าที่ดูนิสัยใจคอตามท้องเรื่อง มีลักษณะที่ดาว ๔ อยู่ราศีมีน เป็นทั้งนิจ ทั้งประ ซึ่งชาวโหราศาสตร์รู้ดีว่า มีสรรพคุณร้ายในทางใด มาคุยที่สวนดอกไม้ ริมสระ ซึ่งเป็นความหมายของดาว ๔ แท้ๆ ความเป็นอัปมงคลจึงได้เกิดขึ้น ดังนี้

ษณอนงค์, อาจารย์แอน,ajarn ann team,โหราศาสตร์,วรรณกรรมจีน,สามก๊ก
สามก๊ก: เตียวเสี้ยน-ลิโป้-ตั๋งโต๊ะ



นางเตียวเสี้ยนนั้น ครั้นถึงที่นั่งยังสวนดอกไม้ ก็ขึ้นไปนั่งบนปากสระ นัยน์ตาก็คอยชำเลืองแลดูต้นทางซึ่งตั๋งโต๊ะจะเข้ามา แล้วทำกลอุบายเข้ากอดลิโป้แล้วร้องไห้ว่า
ข้าพเจ้าเป็นบุตรเลี้ยงอ้องอุ้น และอ้องอุ้นรักข้าพเจ้าเหมือนหนึ่งบุตรในอุทร จึงยกข้าพเจ้าให้เป็นภรรยาท่าน ข้าพเจ้าก็มีความยินดีด้วย และมหาอุปราชไปรับข้าพเจ้ามา ว่าจะให้อยู่เป็นภรรยาท่าน ครั้นมาถึงที่อยู่ มหาอุปราช มิได้ทำตามคำว่า ทำข่มเหงข้าพเจ้าดังนี้ และในอกข้าพเจ้านี้ ตรมเป็นหนองอยู่ได้ประมาณเดือนเศษมาแล้ว คิดว่า จะกลั้นใจตายเสียก็ยังมิได้ลาและแจ้งความทุกข์แก่ท่าน ชีวิตจึงยังคอยอยู่ วันนี้ข้าพเจ้าได้กราบลาและแจ้งความทุกข์ในอกแล้ว ก็จะลาตายไปให้พ้นความระกำต่อหน้าท่าน ให้เห็นความสัตย์ข้าพเจ้า
ว่าแล้วก็ปีนขอบสระ ทำทีจะกระโดดน้ำตาย
ลิโป้ตาลีตาเหลือกเข้าห้าม ยื้อๆ ยุดๆ กันจนพอดีเวลาที่ตั๋งโต๊ะเข้ามาเห็นภาพที่ลิโป้กอดเตียวเสี้ยนและเตียวเสี้ยนผลักไสอย่างเอาเป็นเอาตาย


ทุกอย่างเป็นไปตามที่เตียวเสี้ยนคาดไว้ ลิโป้กระโจนหนี และตั๋งโต๊ะก็โกรธแค้นเสียจน คว้าเอาทวนของลิโป้ที่โจนหนีจนลืมทวนนั้นแหละ พุ่งไป แต่ก็ไม่ถูก ลิยูตกใจเป็นที่สุด เข้าขวางห้ามปราม พูดเกลี้ยกล่อมให้ตั๋งโต๊ะ ยกนางเตียวเสี้ยนให้กับลิโป้ เพื่อยุติข้อบาดหมาง เพื่อเห็นแก่การใหญ่


ตั๋งโต๊ะ กลับไปคิดตรองดู เมื่อเตียวเสี้ยนรู้ ก็ตระแหน่แง่งอน ด้วยมารยาหญิง เป็นทีว่า ให้ลิยู ยกเมียตัวเองนั่นแหละ ยกให้ลิโป้แทน
เป็นอันว่า แผนนางงามนี้เป็นผลสำเร็จโดยสมบูรณ์


ตั้งแต่นั้นมา ลิโป้ก็มีใจเจ็บแค้นพยาบาทตั๋งโต๊ะ อ้องอุ้นก็ติดตามผลงานโดยเข้าไปตีสนิทกับลิโป้ พูดจาชักจูงยุแหย่ต่างๆ นานา จนในที่สุดก็คิดกำจัดตั๋งโต๊ะเสีย และก็ทำการได้สำเร็จในปี พ.ศ.๗๓๕  ลิโป้ได้รับบรรดาศักดิ์เป็นพระยาเมืองเวิน ปัจจุบันคือ นครเวินโจว มณฑลเจ้อเจียง ส่วนเตียวเสี้ยนก็ตกเป็นภรรยาของลิโป้ต่อไป


คณะรัฐประหาร โดยการนำของอ้องอุ้น ไม่อาจยึดอำนาจได้โดยถาวร บ้านเมืองยังวุ่นวายอยู่ เพราะ ลิฉุย กุยกี สมุนซ้ายขวาของตั๋งโต๊ะ กลับรวบรวมกำลัง จับมือกันมาปราบปรามอ้องอุ้นกับลิโป้ ทั้งเป็นการแก้แค้นให้กับตั๋งโต๊ะ และเพื่อชิงอำนาจเพื่อความอยู่รอดของตน อ้องอุ้น ถูกฆ่าตาย ส่วนลิโป้ต้องเผ่นหนีทิ้งเมืองเวินไปขอความคุ้มครองจากอ้วนสุด แต่อ้วนสุดเห็นว่า ลิโป้นี่แหละ จอมทรยศ คบไม่ได้ จึงไม่รับไว้ ลิโป้ ต้องหนีต่อ ไม่มีแผ่นดินจะอยู่ต่อไป


ในช่วงเวลาดังกล่าว โจโฉ ขณะนั้น หลังจากนำทัพบุกยึดเมืองตงจวุ้นได้สำเร็จ ก็ได้รับการแต่งตั้งจากอ้วนเสี้ยว เป็นผู้ครองเมืองตงจวุ้น ส่วนเล่าปี่ ตั้งหลักที่เมืองผิงหยวนในตำแหน่งนายอำเภอ ในเขตอิทธิพลของกงซุนจ้าน ซึ่งหนุนหลังอ้วนสุด ต่อต้านอ้วนเสี้ยว คือ สองอ้วนนี้ เป็นศัตรูต่อกัน เพราะอำนาจแบ่งกันไม่ลงตัว
ช่วงนี้เล่าปี่และโจโฉ ก็เริ่มเพาะขุมพละกำลังของตนขึ้นมา


ในยุคนี้ เป็นยุคที่ เล่าเปียว เจ้าเมืองเกงจิ๋ว มีอิทธิพลมากที่สุด จะมีขุนศึกหนีร้อนมาพึ่งเย็นเสมอๆ ซึ่งเล่าเปียว ไม่เคยปฏิเสธ


บ้านเมืองเริ่มวุ่นวาย เริ่มแตกเป็นเสี่ยงๆ เพราะเหล่าขุนศึกต่างก็มีความเก่งกล้าสามารถ ต่างคนต่างต้องการอำนาจ



นี่แหละ คือความหมายของดาว ๕ เป็นอุจจ์ มีกำลังเหนือดาว ๑

พยากรณ์วันอังคารที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๘ โดย อาจารย์แอน

พยากรณ์วันอังคารที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๘
โดย อาจารย์แอน

          ต้นเดือน หลายเรื่องยังอึมครึม ต้องใช้เวลา แต่กิจการค้าเริ่มคึกคัก อสังหาฯเริ่มเดินหน้า ยานพานะขายได้ การโฆษณาสร้างสรรค์ การค้าแข่งขันกันจนเสียราคา


ทำงานตรงหน้าอย่างเต็มที่ งานในความรับผิดชอบล้นมือ อย่าเพิ่งท้อใจ ช่วงปลายปีสะสางงานแก้ไข ประเมินผล ดีที่สุด


สีดี ชมพู ฟ้า  ม่วง



คติวันนี้  พูดคุยสิบครั้ง ไม่เท่ากับการกระทำแม้เพียงครั้งเดียว

พยากรณ์วันจันทร์ที่ ๓๐ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๘ โดย อาจารย์แอน

พยากรณ์วันจันทร์ที่ ๓๐ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๘
โดย อาจารย์แอน

          วันสุดท้ายของเดือน ๑๑ เข้าเดือนสุดท้ายของปี ที่ต้องเตรียมการทำทุกอย่างให้เสร็จสิ้น การงานสิ้นปีแล้ว เดือนธันวาคม เป็นเดือนเก็บตก และรอนโยบายที่ตกลงกันใหม่ ใครที่ไม่ได้ งาน ยังมีเวลาเจรจา เร่งหางาน หางานไม่ได้ เหมือนเล่นเกมส์ซ้ำซากที่ไม่ชนะ ลองเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนรูปแบบ ลดมาตรฐานลง ค่อยไปไต่เต้าให้สูงขึ้นเมื่อได้งานแล้ว ยังมี ช่วงจังหวะดีๆ ที่รออยู่ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะได้สิ่งที่ถูกใจ

สีดี เหลือง ขาว ครีม น้ำเงิน



คติวันนี้ อยากได้อะไรต้องใส่ใจ พยายาม และตั้งใจ

พยากรณ์วันอาทิตย์ที่ ๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๘ โดย อาจารย์แอน

พยากรณ์วันอาทิตย์ที่ ๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๘
โดย อาจารย์แอน

          เป็นวันที่ต้องระวังอุบัติเหตุ สิ่งที่ไม่คาดฝัน มีเรื่องเสียใจ ของหาย ต้นร้ายแต่ปลายดี ค่อยๆ แก้ไขทุกปัญหา พยายามอย่าหาเรื่องใส่ตัว หรือ ทำอะไรที่รู้ว่าจะเดือดร้อนในอนาคต เป็นวันหยุด ที่ท่องเที่ยวพอสบายใจ ถึงเวลาก็กลับบ้าน ไม่เร่งร้อนรีบเร่ง อย่าพูดคุยเป็นงานเป็นการมากนัก เจรจาเรื่องไม่ใหญ่พอได้ อยู่บ้านใกล้ชิดผู้ใหญ่ เดินทางไกลให้ใกล้พวกพ้อง


สีดี เหลือง ส้ม ลายดอก


คติวันนี้  ใช้ชีวิตประจำวัน ห่างคนพาลใกล้บัณฑิต ก็ปลอดภัย

   

พยากรณ์วันเสาร์ที่ ๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๘ โดย อาจารย์แอน

พยากรณ์วันเสาร์ที่ ๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๘
โดย อาจารย์แอน

          ลาภผลจะมีมา ค้าขายคึกคัก อสังหาริมทรัพย์ขยับตัว การเดินทางจะประสบผลสำเร็จ นัดหมายผู้ใหญ่เจรจามีผล  ความคิดเห็นอาจมีการโต้แย้ง แต่ก็ไม่ได้ขัดขวาง จะได้รับตกทอด ทั้งการงานและทรัพย์ ตรวจสอบงานรับมอบ ออร์เดอร์ให้ดี ยิ่งเป็นงานแรก ยิ่งต้องระวังความผิดพลาด รับงานมากต้องดูแลทั้งคนและเครื่องจักร อยากได้งานต้องหนักเอา ไม่เกี่ยงงาน จะให้ผู้ใหญ่เห็นใจต้องทำให้เห็น


สีดี ส้ม ชมพู เหลือง


คติวันนี้ รักความสำเร็จไม่กลัวอุปสรรค


พยากรณ์วันศุกร์ที่ ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๘ โดย อาจารย์แอน

พยากรณ์วันศุกร์ที่ ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๘
โดย อาจารย์แอน

          ผิดหวังในสิ่งที่ตั้งใจ ผลไม่ได้ตามต้องการ โรคภัยไข้เจ็บถามหา วิงเวียนเล็กน้อยก็ต้องรีบรักษาสิ่งผิดพลาดมาจากคนใน ต้องคอยตรวจตราทุกอย่างให้รอบคอบ  จะคาดการณ์ รับปาก อย่าทำเกินกำลัง ยังมีผู้ใหญ่คอยอุปถัมภ์ แต่ต้องรอจังหวะและโอกาส 


สามารถโฆษณา ทำการตลาด เดินตามแผนทำยอดปลายปี


สีดี ขาว ครีม ส้ม ลายดอก



คติวันนี้ ไม่มีอะไรถึงที่สุด ไม่ว่าจะได้ หรือ จะเสีย

พยากรณ์วันพฤหัสบดีที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๘ โดย อาจารย์แอน

พยากรณ์วันพฤหัสบดีที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๘
โดย อาจารย์แอน

          นโยบายในหน้าที่การงานเปลี่ยนแปลง มีการนัดหมายปรับเปลี่ยน มอบหมาย สู่งานที่หนักขึ้น ใครไม่มีงาน มีโอกาสหางานทำ หนักก็เอา รับได้หมด ไม่เกี่ยงรายได้ ได้งานแน่นอน ค่อยไปขยับขยายวันหน้า ระวังสุขภาพ และอุบัติเหตุกะทันหัน จะก้าวเดินแต่ละก้าวต้องระวัง เกาะกุมมิตรดีไว้ อยู่โดดเดี่ยวเกินไปไม่ดี ความรู้ไม่ได้ น้ำใจไม่มีมา จะรับงานอะไรประเมินกำลังให้ดี อสังหาริมทรัพย์ ขยับตัว  อะไรจะขายได้ก็ขาย ไม่เกี่ยงราคา


สีดี เหลือง ชมพู น้ำเงิน



คติวันนี้  ตั้งสติให้ดี ไม่มีอคติ จะรับได้ทุกสิ่ง

พยากรณ์วันพุธที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๘ โดย อาจารย์แอน

พยากรณ์วันพุธที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๘
โดย อาจารย์แอน

          ทายไว้ล่วงหน้าว่ารถจะติด กิจกรรมคึกคัก พระจันทร์เพ็ญ ฤกษ์ปลอดโปร่งทำการมงคล ทั้งดาว ๒ เข้มแข็งเป็นอุจ ทำอะไรดีๆ จะได้ดีถึงที่สุด อย่ากล่าวคำหยาบจะล้างความเป็นมงคล ทั่วไประวังวาจาในทุกเรื่อง ไม่ใช่เฉพาะคำหยาบ อาจทำให้เข้าใจผิดได้ ถ้าไม่พล่อย ไม่เปลาะ มีแต่คำประโยชน์ ก็ได้ประโยชน์ เจรจาเป็นเรื่องเป็นราว สำเร็จดังประสงค์ในวันนี้


เรื่องยุ่งยากเกิดจากเราเป็นต้นเหตุ แก้ไขที่ต้นตอ จะแก้ไขได้ขาด มิตร ผู้อุปถัมภ์ยังเกื้อกูลให้การณ์สำเร็จ


สีดี เหลือง ทอง ฟ้า ม่วง



คติวันนี้  ให้เขาเราได้ยิ่งกว่า
โดย อาจารย์แอน


          เรื่องราวของสามก๊ก ดูเหมือนจะค่อนข้างยืดยาดตามกาลเวลาของการตีความ และชื่อคนที่ยาก สำนวนที่คลาสสิค ดังนั้นข้าพเจ้าจำเป็นต้องรวบรัดตัดตอน ใช้สำนวนของข้าพเจ้าเอง เฉพาะตอนที่เราๆ ท่านๆ รู้อยู่แล้ว


เป็นอันว่า ด้วยกลอุบายของอ้องอุ้น ที่ออกปากยกนางเตียวเสี้ยนให้กับลิโป้ก่อน แล้ววันรุ่งขึ้น ก็พานางเตียวเสี้ยนเข้าจวนตั๋งโต๊ะ ยกนางให้กับตั๋งโต๊ะโดยมีคำพูดที่เสนาะหู ยกนางให้อย่างแนบเนียน ดังนี้


เมื่อข้าพเจ้าอายุได้ยี่สิบห้าปี ข้าพเจ้าได้เรียนดูดาวสำหรับพระมหากษัตริย์ และดาวประจำเมืองกับดาวบริวารทั้งปวงนั้น บัดนี้ ข้าพเจ้าเห็นดาวสำหรับพระมหากษัตริย์นั้นเศร้าหมอง และดาวมหาอุปราชนั้นมีรัศมีรุ่งเรือง ข้าพเจ้าพิเคราะห์ดูเห็นว่าพระเจ้าเหี้ยนเต้จะดับสูญ ราชสมบัตินั้นจะได้แก่ท่านเป็นมั่นคง


ถึงตอนนี้ ข้าพเจ้าเอง (คืออาจารย์แอน ไม่ใช่อ้องอุ้น) ก็ให้ย้อนนึกถึง ดวงชาตาของกรุงศรีอยุธยาที่มีดาวมุขอำมาตย์ คือดาว ๕ เป็นอุจจ์ โยคหน้า ลัคนา ดวงเมือง ส่วนดาวแห่งพระมหากษัตริย์นั้น ถูกเบียน ดังนั้น จึงมีคำทำนายว่า เมื่อใดก็ตาม ที่มุขอำมาตย์ กล้าแข็ง ก็จะต้องชิงแผ่นดินชะรอย ชาตาเมืองลกเอี้ยงจะเข้าเกณฑ์เดียวกับชาตาเมืองกรุงศรีอยุธยาเป็นมั่นคง(สำนวนพอจะอยู่เล่มเดียวกันได้)


เมื่อ ตั๋งโต๊ะ มีอาการตกหลุมพรางแน่แล้วอ้องอุ้นจึงดำเนินการ


จึงให้จัดแจงข้าวของ เสื้อผ้าอย่างดีให้แก่นางเตียวเสี้ยน เป็นอันมาก แล้วให้นางเตียวเสี้ยนขึ้นเกี้ยว เกณฑ์ผู้คนทั้งปวงให้ไปส่ง ณ ที่อยู่ตั๋งโต๊ะในเมืองหลวงในเวลากลางคืนนั้น


อ้องอุ้น ทำเป็นยกนางเตียวเสี้ยน ให้เป็นเมียน้อยลิโป้ แต่กลับส่งนางไปให้ตั๋งโต๊ะ เมื่อลิโป้รู้ดังนั้นก็โกรธอ้องอุ้นเป็นอันมาก แต่อ้องอุ้นนั้นวางแผนไว้อย่างดีแล้วตั้งแต่แรก จึงไม่ตระหนกตกใจ จึงหาวิธีตอบซึ่งทำให้ลิโป้กับตั๋งโต๊ะค่อยๆ แคลงใจกัน โดยพูดให้ลิโป้รู้สึกว่า ตั๋งโต๊ะใช้อำนาจบังคับเอานางเตียวเสี้ยนไป ทั้งที่รู้ว่าเป็นของลิโป้ ลิโป้ก็เริ่มผูกใจเจ็บตั้งแต่นั้นมา


ในสามก๊กเล่าว่า
เมื่อตั๋งโต๊ะได้นางเตียวเสี้ยนมาไว้นั้น มีความรักใคร่ลุ่มหลง ไม่ได้ออกว่าราชการ กำหนดได้ถึงเดือนเศษ ครั้นตั๋งโต๊ะป่วยลงแล้ว นางเตียวเสี้ยนนั้นแสร้งอุตส่าห์กระทำรักษาพยาบาลปรนนิบัติตั๋งโต๊ะ มิให้อนาทรร้อนใจ ตั๋งโต๊ะก็มีความรักนางเตียวเสี้ยนเป็นอันมาก
อยู่มาวันหนึ่งตั๋งโต๊ะก็ล้มป่วย นางเตียวเสี้ยนก็ประสบช่องทางให้พ่อเลี้ยงและลูกเลี้ยงแตกกัน เรื่องมีอยู่ว่า
ครั้นเวลาวันหนึ่ง ลิโป้เข้าไปเยี่ยมถึงที่ข้างใน ตั๋งโต๊ะนั้นนอนหลับอยู่ นางเตียวเสี้ยนเห็นลิโป้เข้ามาจึงเอนตัวออกไปข้างหลังมุ้ง แล้วทำเป็นกลมายา เอามือชี้ไปตรงตั๋งโต๊ะ แล้วชี้เข้าที่อกของตัว จึงทำเป็นร้องไห้ ลิโป้แจ้งในกิริยาของเตียวเสี้ยนทำนั้น ก็ยิ่งมีความเสน่หาอาลัยขึ้นเป็นอันมาก


ฝ่ายตั๋งโต๊ะตื่นขึ้น เห็นลิโป้เข้ามา แลดูไปข้างหลังมุ้งมิได้กระพริบตา จึงชะโงกไปดู เห็นนางเตียวเสี้ยนยืนดูอยู่ข้างหลังมุ้ง ก็มีความโกรธจึงร้องตวาดว่า อ้ายลิโป้นี้ เสียแรงกูไว้ใจรักดั่งบุตรในอุทร บังอาจหยอกเมียกูได้


ความบาดหมางด้วยผู้หญิงเป็นเหตุนี้ ลิยู ที่ปรึกษาคนสำคัญของลิโป้ตกใจมาก เข้าไปว่ากล่าวแก่ตั๋งโต๊ะว่า
ท่านซิคิดการใหญ่ เป็นไฉนมาขัดเคืองลิโป้ด้วยเรื่อง มโนสาเร่เล่า ถ้าลิโป้เอาใจอออกห่าง ท่านก็จะหวังเอาผู้ใดเป็นกำลังสืบไปเล่า

ในตอนแรก ตั๋งโต๊ะก็เชื่อฟัง พยายามเอาใจลิโป้ด้วยทรัพย์สินเงินทอง สมัยนั้นคือ ทั้งทองคำ ทั้งผ้าแพร ทั้งสองก็พอจะคืนดีกัน แต่ใจของลิโป้ก็ยังคิดถึงนางเตียวเสี้ยนอยู่ เป็นช่องทางให้แผนนางงามนั้นดำเนินต่อ เพราะนางเตียวเสี้ยนก็ยังคงดำเนินการต่อ โดยรอจังหวะและโอกาส

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๔/๒ โดย อาจารย์แอน

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๔/๒
โดย อาจารย์แอน

          หลังจากนั้น ก็มาถึงเหตุการณ์ที่กล่าวถึงในตอนที่ ตั๋งโต๊ะย้ายเมืองหลวง ประกอบกับ ๑๖ หัวเมืองแตกความสามัคคีกันเอง เรียกว่า แพ้บารมีตั๋งโต๊ะ ที่เล่าเรื่องลิโป้ย้อนหลังโดยละเอียดก็เพื่อให้เห็นความสามารถของลิโป้ชัด ๆ

ครั้งนั้น เท่ากับตั๋งโต๊ะยึดอำนาจการปกครองไว้แต่เพียงผู้เดียว และยี่สิบวันบ้าง เดือนหนึ่งบ้าง ก็ขึ้นไปเฝ้าพระเจ้าเหี้ยนเต้ ครั้งหนึ่ง เวลาไปไหนมาไหน มีขุนนางน้อยใหญ่คอยเฝ้าแหนมากมาย

อยู่มาวันหนึ่งตั๋งโต๊ะ ต้องการแสดงอำนาจ จึงจัดงานเลี้ยงขึ้น ตามภาษาชาวเนปจูน ที่ชอบงานเลี้ยงและสมาคม ถ้าเป็นเราคงเข็ดงานเลี้ยงของตั๋งโต๊ะ เพราะจัดทีไร มีประกาศแปลก ๆ ทุกที แต่ขุนนางทั้งหลายไม่เข็ด และวันนี้เป็นวันชาตาขาดของขุนนางคนหนึ่งมีชื่อว่า เตียวอุ๋น เพราะขณะกินโต๊ะอยู่ ตั๋งโต๊ะ นั่งเสพสุราอยู่ ลิโป้ก็เข้าไปกระซิบข้างหูตั๋งโต๊ะ ตามที่ตั๋งโต๊ะสั่งไว้ ตั๋งโต๊ะก็ทำทีฟัง แล้วแสร้งทำเป็นหัวเราะแล้วว่า คิดอย่างนี้ดอก หรือ เร่งเอาตัวมันไป

ลิโป้ก็เข้าจับตัวเตียวอุ๋นลากออกไป ขุนนางทั้งหลายไม่รู้เรื่องรู้ราว ประเดี๋ยวเดียว ลิโป้ ก็เอาหัวของเตียวอุ๋นเข้ามา ขุนนางทั้งหลายพากันตกใจ (เป็นเราก็ตกใจ)

ตั๋งโต๊ะ เห็นดังนั้นก็หัวเราะ แล้วจึงว่า ท่านทั้งปวงอย่าตกใจ ซึ่งเกิดเหตุทั้งนี้เพราะเตียวอุ๋นให้หนังสือลับ ไปถึงอ้วนสุดให้มาทำร้ายเรา มีผู้รู้จึงบอกหนังสือมา ลิโป้จึงมากระซิบบอกเรา เราจึงให้จับไปฆ่าเสีย ท่านทั้งปวงมิได้ร่วมคิดด้วย ก็อย่าได้เป็นทุกข์ จงกินโต๊ะพูดกันเล่นให้สบายนี่คืออุบายข่มขวัญขุนนางทั้งหลาย ไม่ให้เหิมเกริมคิดร้ายต่อตน เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู

มีขุนนางคนหนึ่ง รู้สึกเจ็บร้อนแทนแผ่นดิน ทั้งมีความคิดที่จะกำจัดตั๋งโต๊ะ คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก คืนหนึ่งออกไปชมสวน คิดเรื่องที่ตนอัดอั้นตันใจ ก็ได้แต่ทอดถอนใจอยู่ไปมา นางเตียวเสี้ยน ผู้เป็นลูกเลี้ยงเข้ามาพูดจาด้วย และรับอาสาที่จะทำตามแผนการของอ้องอุ้นทุกประการ ทั้งนี้เพื่อผลให้ ลิโป้ นายทหารยอดฝีมือ กับพ่อเลี้ยง ตั๋งโต๊ะ เกิดความกินแหนงแคลงใจกัน

โหราศาสตร์, สามก๊ก, ประวัติศาสตร์จีน,ajarn ann team
สามก๊ก: เตียวเสี้ยน และ ลิโป้
เตียวเสี้ยน ผู้นี้เป็นหญิงงามที่สุด หนึ่งในสี่คนที่ปรากฏอยู่ในประวัติศาสตร์ของจีน
อ้องอุ้นรู้ดีว่า ลิโป้เป็นคนโลภ ดังนั้น วันหนึ่งจึงจัดเพชรพลอยกับทองคำ แล้วหาช่างมาทำหมวกสำหรับลูกหลวงใส่ แล้วแต่งให้คนสนิทให้ลอบเอาออกไปเป็นกำนัลแก่ลิโป้ ลิโป้เป็นคนรูปงาม แต่งกายมีรสนิยม เห็นหมวกลูกหลวงก็ยินดี รีบมาหาอ้องอุ้น ที่บ้าน
มีโคลงโลกนิติ กล่าวไว้ว่า

จักเข้าหาบ้ายศ ยอตาม
คนโลภกำนัลงาม ง่ายแท้
คนมักนักเลงกาม การเสน่ห์ ยอนา
เข้าสู่หมู่ปราชญ์ ชอบถ้อยทางธรรม

โคลงที่ยกมานี้ อาจารย์ ดร.อัมพร สุขเกษม ท่านอธิบายไว้ในหนังสือ กลอุบาย ทำลายล้าง อย่างสามก๊กว่า การยอคนมีลักษณะต่าง ๆ กัน ยออย่างไร จึงจะได้ผล คือใช้อุบายตามกิเลสของคนดังเช่นลิโป้ที่ คนโลภกำนัลงาม ง่ายแท้

อ้องอุ้น มีใจยินดีมาก ออกมารับลิโป้ถึงหน้าตึก แล้วเชิญให้เสพสุราอาหาร ทั้งกล่าวถ้อยคำสรรเสริญไพเราะเสนาะหู เอาใจ

ลิโป้จนได้ที่แล้วก็ให้คนไปเชิญเตียวเสี้ยนออกมา
วีรบุรุษย่อมคู่กับหญิงงาม ลิโป้เห็นนางเตียวเสี้ยนรูปงาม ก็เกิดความพึงใจทันที ส่วนนางเตียวเสี้ยนก็มีอัน รินสุราคำนับให้ลิโป้ทีไร ก็ชายหางตา ให้สบตาลิโป้ แล้วให้ที


ฝ่ายลิโป้รับจอกสุราไป ก็ชำเลืองไปต้องตานางเตียวเสี้ยนทุกครั้ง มีใจประหวัดยินดีเป็นอันมาก อ้องอุ้นสังเกตอยู่แล้ว เมื่อเห็นลิโป้มีใจกับนางเตียวเสี้ยน ก็ดำเนินการขั้นต่อไป

พยากรณ์วันอังคารที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๘ โดย อาจารย์แอน

พยากรณ์วันอังคารที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๘
โดย อาจารย์แอน

          มีฤกษ์ดีทำการมงคล เรื่องร้ายค่อยคลี่คลาย ทุกอย่างเริ่มดีมีหนทาง เจรจาปรองดองกันได้ บุญที่ทำกันมาทั้งเดือนช่วยให้ชาวพุทธอ่อนข้อให้กัน คนร้ายๆ จะแพ้ภัย มิตรเกาะกลุ่ม เกื้อกูล เอื้อประโยชน์ ผู้ใหญ่จะช่วยเหลือ น่าหนักใจที่คนแปลกหน้า แม้จะดี ก็ยังถูกหวาดระแวง ตอนนี้อย่าทำอะไรตามใจตัวเอง จะเป็นภัยในภายหลัง ตัดสินใจทำอะไร คิดให้รอบคอบ


สีดี เหลือง ชมพู ฟ้า



คติวันนี้  อย่าทำอะไร เพราะถูกบังคับ จะเสียผล

พยากรณ์วันจันทร์ที่ ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๘ โดย อาจารย์แอน

พยากรณ์วันจันทร์ที่ ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๘
โดย อาจารย์แอน

          มีบางเรื่องต้องเปลี่ยนแปลงความคิด เปลี่ยนแปลงนโยบาย อย่างละมุนละม่อม ไม่ให้รู้สึกหักด้ามพร้าด้วยเข่า มีความลำบากอับจนปัญญา ทางไหนไปต่อไม่ได้ ทางนั้นก็ต้องหยุดเดิน เปลี่ยนจากความเคยชิน บางอย่างรั่วไหล อย่างรวดเร็ว ต้องหาทางอุดกระชับรอยรั่วให้ดี จะมีเหตุการณ์บางอย่างเสมือนลางบอกเหตุ


การประสานงานภายนอกไม่เป็นผล ควรสะสางงานภายในวันนี้ 


สีดี เหลือง ชมพู ฟ้า



คติวันนี้ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนโดยแท้จริง