พยากรณ์ดวงเมือง ปี ๒๕๕๙ ตอนที่ ๑
ชะตาเมืองปีนี้ มีปูมบันทึกที่น่าสนใจ
เพราะเป็นปีที่ชะตาเมืองมีอายุย่าง ๒๓๔ ปี แม้จะนับเอาเดือนเมษายน
เป็นปีใหม่เปลี่ยนปีนักษัตร แต่ก็จะมีเหตุที่จะนำไปสู่เหตุการณ์ต่างๆ เพราะปีนี้
ดาว ๘ จะตกเป็นกาลกิณี ร่วมธาตุกับ ดาว ๐ และจะให้ผลกับบ้านเมืองในช่วงที่ชะตาอ่อน
คือ ช่วง
วันที่ ๑๕ มีนาคม - ๑๕ เมษายน
วันที่ ๑๕ กันยายน - ๑๕ ตุลาคม
วันที่ ๑๕ พฤศจิกายน - ๑๕ธันวาคม
ซึ่งในช่วงนี้
ก็มีกระแสที่ทำให้นานาประเทศโจมตีเรา ไม่ให้ความเชื่อถือ ลดมาตรฐานลง
หมายถึงปีหน้า จะกระทบกระเทือนในด้านเศรษฐกิจ เครดิตและความเชื่อถือ
นี่ต้องประคองตลาดหุ้นกันให้ดีๆ เพราะดาว ๗ ยังคงเล็งภพกดุมภะของดวงเมือง
อย่างเหนียวแน่น
วงรอบของดาว ๘ ที่เข้ามาอยู่ในราศีสิงห์
ภพปุตตะ ตั้งแต่วันที่ ๑๕ มกราคม เรียกว่า นอนมาแต่ต้นปี แม้ยังไม่ทันเป็นกาลกิณี
ก็ส่อเค้าลางของความไม่น่าเชื่อถือ ด้านการลงทุน เครดิตทางการค้า รวมถึง
อาจมีการทุจริต หรือ ทำการค้าไม่โปร่งใส ที่จะตรวจสอบจนพบ
แล้วต้องปรับเปลี่ยนระบบกันเป็นขนานใหญ่ เพื่อเป็นที่เชื่อถือต่อไป ดังนั้น
ตอนนี้ควรพิจารณาในองค์กรของเราที่ทำธุรกิจอยู่
ต้องสร้างจุดยืนให้เป็นที่เชื่อถือให้ได้
ดาว ๐ จะโคจรขึ้นสู่ราศีเมษ รับกันดีกับดาว ๘
อีก ในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ชะตาเมืองอ่อนแอ มีการต่อต้าน ถกเถียง
ความเห็นแตก ก่อนเดือนมีนาคมต้องมีการจัดสัมมนา ละลายพฤติกรรมกลุ่มกันให้ดี
สร้างบุญสร้างกุศลในช่วงมาฆะบูชา
ยอมรับและช่วยกันปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้ดีขึ้น
ดาวพระเคราะห์ชุมนุมกันในราศีเมษ อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ตั้งแต่ต้นปี
มีอะไรหลายอย่างต้องรีบเร่งเร็วเหมือนลิง แถมทำงานไปด้วยก็ต้องป่าวประกาศไปด้วย
เศรษฐกิจดีเฉพาะตนมากกว่าภาพรวม
ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ดาว ๓ ๗ ร่วมกันเล็งเรือนทรัพย์ของชะตาเมืองเรานะ
เราต้องระวังไม่ไปวิวาท บาดหมางกับใครเขา อย่าใจร้อน อวดเก่ง อวดว่ามีอะไรมาคุ้มหัว
เป็นแค่ร่ม แค่กะละมัง คุมหัวได้นิดเดียวแต่ไม่คุมทั้งตัว ย่อมเจ็บตัว
จะมีเรื่องเจ็บตัว เสียทรัพย์ ใช้จ่ายสิ้นเปลือง ช่วงนี้จะถอดใจง่าย อยากล้มบริษัท
ออกจากงาน ค่าเงินไม่คงที่ การส่งออกกระทบกระเทือน ชะตาเมืองอ่อนแอ ไปเจ็ดเดือน
วิกฤติสุด คือ ช่วง ๑๕ มีนาคม - สงกรานต์ ถ้ามีมาตรการป้องกัน
ท่าทางจะเกิดอุบัติเหตุมากมาย ไม่ราบเรียบ
ทั้งนี้เหตุการณ์ทางโลกก็เลวร้ายไม่หย่อนกัน
ไม่ต้องวิตกมาก ปี ๒๕๕๙ นี้ ต้นร้ายปลายดี คือ
ดีตอนปลายปี แต่เศรษฐกิจของเรานี่ต่างหาก ไม่ค่อยจะดี เพราะอิงกับสถานการณ์โลกด้วย
