พิชัยสงครามกับสามก๊ก
ตอนที่ ๑/๒
โดย
อ.ษณอนงค์ คำแสนหวี (อาจารย์แอน)
ศักราชที่โจโฉ
ถือกำเนิด ในดวงชาตา ก็ต้องได้รับกระแสความร้ายกาจ
และอิทธิพลของดวงดาวที่โดดเด่นในด้าน ไม่ชายไม่หญิง หรือที่เรียกว่า “ดาวขันที” ทำให้โจโฉมีฐานะสูงส่ง เป็นบุตรบุญธรรมของขันที
นามว่า “เฉาเถิง”
เฉาเถิง
รับใช้ฮ่องเต้ มาถึง ๔ รัชกาล จนถึงฮั่นหวนตี้ รวมเวลามากกว่า ๓๐ ปี
ดำรงตำแหน่งเป็นราชเลขาธิการ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่สูงยิ่ง
บางครั้งแอบอ้างราชโองการสั่งการแทนฮ่องเต้ โดยไม่มีใครเอาผิดได้
เนื่องเพราะในอดีต เป็นผู้สนับสนุนให้ ฮั่นหวนตี้ ขึ้นเป็นฮ่องเต้ จึงได้รับความไว้วางพระทัยเป็นอย่างมาก
เฉาเถิง
เป็นขันทีที่มีอำนาจ และยังสนับสนุนคนของตนขึ้นกุมอำนาจ และดำรงตำแหน่งสำคัญๆ
ทุกด้าน
ดวงชาตาในปีที่โจโฉเกิด
ที่ดาว ๗ และดาว ๓ ถึงกันเป็นเกณฑ์กัน ขนาบดาว “ขันที” คือ ดาว ๘ และ ดาว ๑ “ดาวกษัตริย์”
ทำให้โจโฉ ได้เผชิญการฟาดฟันกันอย่างถึงพริกถึงขิง
ของคณะขันทีฝ่ายพ่อบุญธรรมของตน และขุนนางกังฉิน เหลียงยี่ พระญาติของฮองเฮา
ฝ่ายขันทีเป็นฝ่ายมีชัย เพราะความลึกซึ้งชั่วร้ายมากกว่ากังฉินหลายเท่า
ลองจินตนาการดูว่า สิ่งแวดล้อมทางบุคคล ของโจโฉที่กำลังเติบโต เป็นอย่างไร
ตลอดชีวิตของโจโฉ ก็ต้องเผชิญอย่างนั้นตลอดไปเหมือนกัน
ในปี
พ.ศ.๗๐๔ หน้าบ้านของคนทอเสื่อขาย มีต้นหม่อนเป็นรูปฉัตร
อยู่ทางฝั่งขวาของตัวบ้าน คือ ฝั่งมังกร
เป็นลางบอกเหตุตามหลักวิชาว่าด้วยการดูทำเล หรือชัยภูมิแหล่งกำเนิด
ที่จะส่งเสริมให้เป็นใหญ่ในภายภาคหน้า
เวลาเราเดินผ่านหน้าบ้านที่มีต้นไม้ปลูกอยู่
อย่าลืมดูรูปร่างลักษณะต้นไม้นั้นด้วย และที่ไม่ควรลืมคือ เวลาเดินผ่านบ่อยๆ
ต้นไม้นั้น เฉา ตาย หรือ งอกงาม มันบอกถึง โชค ของเราในวันนั้นแหละ
ปีนั้น
เป็นปีกำเนิดเด็กยากจน มีลักษณะสัดส่วนยาวผิดปรกติหลายส่วน คือ หูยาว มือยาว
เท้ายาว แม้ว่าจะยากจน มีอาชีพทำรองเท้าฟาง และรับจ้างทอเสื่อ
แต่มีแซ่เดียวกันกับฮ่องเต้ราชวงศ์ฮั่น สืบเชื้อสายมากจาก “จงซานเซิ่งหวาง” ๑ ในจำนวนราชโอรส ๑๒๐ องค์ ของพระเจ้า
ฮั่นจิ่งตี้ รัชกาลที่ ๔ แห่งฮั่นตะวันตก
"เล่าปี่" ขอบคุณภาพจาก wikipedia |
เด็กชายคนนี้มีชื่อเป็นทางการว่า
“หลิวสวนเต๋อ” นามเดิมว่า “หลิวเป้ย” ที่เรารู้จักกันดีว่า
“เล่าปี่” มีอายุอ่อนกว่าโจโฉ ๖ ปี อุปนิสัย เป็นคนใจเย็น
ในขณะที่โจโฉนั้นร้อนกว่า และเล่าปี่นั้นอ่อนกว่าโจโฉหลายปี
ชีวิตของเล่าปี่
ในวัยเด็กค่อนข้างยากจนข้นแค้น มารดามักนำติดตัวไปขายสินค้าในตลาดเสมอ
เนื่องจากในสมัยปลายรัชกาลพระเจ้าฮั่นหวนตี้ ความตกต่ำของเศรษฐกิจคงจะถึงขนาด
เพราะในประวัติศาสตร์ระบุว่า
เชื้อพระวงศ์ต้องตกอับยากจนขายของเก่าประทังชีวิตไปตามๆ กัน
อย่าว่าแต่เล่าปี่ก็เป็นเชื้อสายราชวงศ์ที่ตกอับอยู่แล้ว
·
ความที่ดาว ๕ เป็นราชาโชค
หน้าตาของเล่าปี่เป็นที่เอ็นดูแก่ผู้พบเห็นทั่วไป ในขณะที่โจโฉ มีดาว ๕
เป็นมหาจักร แสดงความเป็นเด็กเจ้าเล่ห์หลอกผู้ใหญ่ ถึงขนาดมีซินแสมาทักทายว่า
เด็กคนนี้เติบใหญ่จะมีชีวิตที่ผาดโผน มีทั้งดีและร้าย แต่จะประสพผลสำเร็จในที่สุด
นี่เป็นอิทธิพลของดาวมหาจักรอย่างชัดเจน
ตัวอย่างของความเจ้าเล่ห์ของโจโฉ
แบบดาวมหาจักร คือ ครั้งหนึ่ง แกล้งทำเป็นลมบ้าหมู อาของเขานำความไปบอกให้ โจโก๋
ผู้เป็นบิดาทราบว่า สงสัยจะเป็นเด็กขี้โรค แต่เมื่อ โจโก๋ สอบถาม เจ้าตัวก็ปฏิเสธ
บอกว่าไม่เคยเป็นอะไรเลย บิดาก็เลยเข้าใจว่า อาหรือน้องชายของตนหาความ
เลยถูกตำหนิไปตามระเบียบ เป็นอันว่า ผู้ใหญ่ในตระกูลรู้ซึ้งถึงความกลอกกลิ้งของโจโฉ
เป็นอย่างดี
ส่วนเล่าปี่กลับตรงกันข้าม
มารดานำไปตลาดก็เป็นที่รักที่เอ็นดูแก่คนทั้งหลายที่พบเห็น
·
ในปีที่เล่าปี่เกิด ราศีธาตุไฟโดดเด่น เพราะดาว
๗ และ ดาว ๐ ซึ่งเป็นดาวใหญ่ประเภทบาปเคราะห์ สถิตอยู่ราศีธนู ได้เกณฑ์กับราศีธาตุลม
ที่มีดาว ๓ และดาว ๔ สถิตอยู่ คือสถิตที่ราศีกุมภ์
ดาว
๘ และ พลูโต ในภพที่แปดของดาว ๓ ได้เกณฑ์ดาว ๓ ไปเต็มๆ
ดวงประเทียบ เล่าปี่ |
อิทธิพลของดาวบาปเคราะห์ที่ถึงกันหมดในดวงชาตาของเล่าปี่
ส่งผลให้เล่าปี่ ต้องกลายมาเป็นบุคคลสำคัญ แผ่นดินปั่นป่วนวุ่นวาย แบ่งแยกเป็นก๊ก
เป็นเหล่า เช่นเดียวกับปีที่ตนเกิด แผ่นดินสมัยพระเจ้าฮั่นหมิงตี้
ที่วุ่นวายและเกิดยุคเข็ญ
ราศีธาตุไฟที่โดดเด่นได้เกณฑ์สองชั้นสามชั้นอย่างนี้
คือไฟทะเยอทะยานที่มีอยู่ในตัวเล่าปี่นั่นเอง
·
วางดวงชะตาต่อ ให้ลัคนาอยู่ที่ราศีสิงห์ มีดาว
๑ กุมลัคนา และ ดาว ๒ อยู่ในตำแหน่งปทุมเกณฑ์ ภพที่ ๑๑ ของลัคนา ได้ตำแหน่งอมฤตโชคด้วย
โโปรดติดตามตอนต่อไป...
โโปรดติดตามตอนต่อไป...