พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๗/๓ โดย อาจารย์แอน

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๗/๓
โดย อาจารย์แอน

          แต่ว่าการคาดการณ์ของที่ปรึกษาลิฉุย กุยกี นั้น ถูกต้อง เพราะม้าเท้ง กับหันซุย ล้อมเมืองอยู่ประมาณสองเดือน เสบียงอาหารก็ขาดแคลนลง กำลังคิดจะถอย พอดีในเมืองมีหนอนบ่อนไส้ ไปบอกลิฉุย กุยกี ว่า เหตุเกิดครั้งนี้เพราะ ม้าฮู ตงเซียว และเลาเฉีย คบคิดเป็นไส้ศึกให้ม้าเท้ง  ลิฉุย กุยกี จึงนำบุคคลทั้งสามไปตัดศีรษะ (นี่คือสาเหตุที่บอกว่า ไม่ต้องไปจดจำชื่อไว้ เพราะในที่สุดก็ตายหมด) และนำศีรษะของคนทั้งสามเสียบประจานไว้บนเชิงเทินให้เห็นทั่วกัน ม้าเท้งจึงชวนหันซุย กองทัพแบบตัวใครตัวมัน กลับบ้านเมืองตน

ลิฉุย กุยกี ให้เตียวเจ ติดตามม้าเท้ง และให้หวนเตียว ติดตามหันซุย

หวนเตียวตามหันซุยทันที่เขาตันฉอง แต่ไม่ได้รบกัน เพราะหันซุย ใช้จิตวิทยาของความเป็นคนบ้านเดียวกัน เกลี้ยกล่อมจนหวนเตียวยอมปล่อยให้หันซุยกลับเมืองแต่โดยดี ซึ่งเป็นสาเหตุให้ตนเองต้องหัวเสีย เพราะหลานชายของลิฉุยอยู่ในกองทัพของหวนเตียวด้วย ส่วนเตียวเจนั้น ไล่ไม่ทัน ก็ยกทัพกลับมา

ตอนนี้ จึงถือเป็นการเปิดตัวและแสดงวีรกรรมของม้าเฉียว เล็กน้อยเท่านั้น

ต่อมา มีโจรโพกผ้าเหลือง อาละวาดขึ้นอีกแถวเมืองเซียงจิ๋ว  ลิฉุย กุยกี อ้างรับสั่งพระเจ้าเหี้ยนเต้ ให้โจโฉไปปราบปราม ซึ่งโจโฉได้ทำตามรับสั่ง ปราบปรามเป็นผลสำเร็จ ภายในเวลาเพียงสองเดือน พวกโจรแตกพ่าย ต้องยอมสวามิภักดิ์ด้วย ประมาณสามสิบหมื่น ช่วยเหลือประชาชนหญิงชาย ที่โจรจับไว้อีกร้อยหมื่นแล้วจึงกราบทูลมายังเมืองหลวง พระเจ้าเหี้ยนเต้ ได้ปูนบำเหน็จความชอบ ให้โจโฉเป็นผู้ว่าราชการภาคตะวันออก

ก็ไปต่อเนื่องกับตอนที่แล้ว คือ โจโฉยกพลพรรคทั้งหลายไปตั้งตัวเป็นใหญ่ที่เมืองกุนจิ๋ว แล้วเกลี้ยกล่อมคนดีมีฝีมือ เข้ามาร่วมด้วยเป็นจำนวนมาก

ส่วนในเมืองหลวง มีขุนนางผู้ใหญ่อีกสองคนคือ เอียวปิว กับจูฮี ทนอยู่ในอำนาจของลิฉุย กุยกี ไม่ได้ จึงแอบไปทูลพระเจ้าเหี้ยนเต้ ว่า ทุกวันนี้ ลิฉุย กุยกี ตั้งตนเป็นใหญ่ ว่าราชการมิได้ตั้งอยู่ในความยุติธรรม แถมดูหมิ่นไม่เคารพพระองค์ ขณะนี้ โจโฉเป็นใหญ่อยู่ภาคตะวันออก มีทหารมากมาย ถ้าเรียกตัวเข้ามาทำราชการในเมืองหลวง บ้านเมืองจะเป็นสุขสืบไป”  ซึ่งพระเจ้าเหี้ยนเต้เห็นด้วย แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เอียวปิวเลยอาสาที่จะจัดการเรื่องราวทั้งปวงเอง พระเจ้าเหี้ยนเต้ จึงเขียนหนังสือฝากเอียวปิวไว้ เมื่อมีเหตุจำเป็นจะได้เรียกโจโฉเข้ามาช่วย

สิ่งที่เอียวเปียว เริ่มงานก่อน ก็คือ เริ่มแผนยุยงให้ทั้งสองนายพลผู้ยิ่งใหญ่ แตกกันเอง


การที่จะยุยงให้ใครแตกกันนั้น เราควรรอให้ดาวจรนั้น จรมาเป็นคู่มิตรกัน และดาวคู่มิตรนั้น เดินแยกจากกัน หรือเดินผิดปกติ หรือดวงใดดวงหนึ่งอยู่ในตำแหน่งไม่ดี การยุยงนั้นก็จะมีผลโดยสมบูรณ์ เช่นเมื่อ ดาว ๗ และ ๘ จรมาเป็นคู่มิตรกัน และดาวเสาร์เดินพักร์ แยกจากดาว ๘ มาอย่างนี้ ถึงไม่ยุยง ก็ต้องแตกแยกกัน เดินคนละทาง อย่างแน่นอน ผิดกันแต่ว่าถ้าไม่ถูกยุยง ก็อาจจะเดินจากกันอย่างมิตร แต่ถ้าถูกยุยงจะแตกชนิดไม่มองหน้ากัน เหมือนเรื่องราวของลิฉุย กุยกี ที่กล่าวถึง เป็นอุทาหรณ์ต่อไป

เคล็ดวิชาโหราศาสตร์ ดาวมฤตยู (๐) โดย อาจารย์แอน

เคล็ดวิชาโหราศาสตร์ ดาวมฤตยู (๐) 

โดย อาจารย์แอน



          มีดาวอยู่ดวงหนึ่งที่เรายังไม่ได้เอ่ยถึง เพราะความลึกลับ แถมให้เภทภัยแบบลึกลับ
ajarn ann team,ดาวบาปเคราะห์,อาเพศ,พระโหราธิบดี(ชุม),
ดาวมฤตยู ภาพจากอินเตอร์เน็ต
ด้วย คือ
ดาวมฤตยู ที่เราแทนด้วยเลข ๐ แม้ไม่มีการจัดอยู่ในดาวเคราะห์ประเภทใด แต่เป็นที่รู้กันว่า เป็นดาวที่มีอำนาจ มีหน้าที่แสดงผลร้ายเท่ากับดาวบาปเคราะห์ แถมสถิตในเรือนใด ก็นำอาเพศมาสู่เรือนนั้น ความอาเพศนี้มีความหมายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างผิดปกติ ปรวนแปร แสดงผลทางผิดหวัง มากกว่าให้ความสมหวัง โหราจารย์บัญญัติไว้สั้นๆว่า "จะดูภัยอาเพศให้ดูมฤตยู"



มาดูประวัติดาว ๐ กัน เพราะ ดาวดวงนี้ไม่ได้ปรากฏมีหลักฐานในการพยากรณ์มาแต่ครั้งโบร่ำโบราณ ไม่ได้ปรากฏในโหราศาสตร์ฮินดู หรือ โหราศาสตร์ไทยสมัยสุโขทัยหรือ อยุธยา นักดาราศาสตร์ ของอังกฤษ เป็นผู้ค้นพบ ตั้งแต่ปี ค.ศ.๑๗๘๑ และได้ตั้งชื่อดาวตามนามผู้ค้นพบว่า ยูเรนัส ส่วนของไทยเรา ผู้ที่นำมาใช้ในการพยากรณ์ คือ นายมี โหร ผู้รู้ และเชี่ยวชาญคัมภีร์โหราศาสตร์ดีผู้หนึ่ง นายมี ผู้นี้เป็นทั้งนักกวี และช่างวาด ผลงานที่พบได้คือ งานเขียนภาพรามเกียรติ์ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้ว นี่แหละค่ะ เป็นตอนที่พระอินทร์ให้ท้าววิษณุกรรมลงมานฤมิตรนครลงกาให้แก่ทศกัณฐ์ใหม่ หลังจากถูกหนุมานเผา ซึ่งนายมีแผลงวาดกรุงลงกาใหม่ เป็นวังฝรั่ง แทนที่จะมีช่อฟ้าหน้าบัน ใบระกาหางหงษ์ แบบวังทั่วไป เป็นที่แตกตื่นแก่คนทั้งหลาย ว่างๆ ยายจะพาไปดู ที่วัดพระแก้วนะ นับแต่นั้น นายมี เลยได้สมญานามว่า นายมี ลงกาใหม่



นายมีคนนี้เป็นบุตรของพระโหราธิบดี (ชุม) สมัยรัชกาลที่ ๑ นอกจากนี้ นายมียังเป็นศิษย์ ท่านสุนทรภู่ อีกด้วย มีข้อความที่แสดงถึงความรู้ด้านกวีและโหราศาสตร์ ของนายมี ในนิราศสุพรรณ ว่า
                                      พระสุริยง์ลงลับยุคลธร
พระจันทร์จรเจ็ดค่ำเป็นสำคัญ
เห็นพระจันทร์วงศ์แหว่งตะแคงเหนือ
เหมือนรูปเรือลอยขวางบนสวรรค์
อังคารเข้าเรียงเคียงพระจันทร์
ตำรานั้นมีอยู่แต่บูราณ
ถูกชะตาราศีผู้ดีไพร่
จะได้คู่ชมสมสมาน
เพราะพระจันทร์จะสบพบอังคาร
ไม่ช้านานพอหมดกำหนดเดือน

ก่อนจะเรียนรู้เรื่องดาว ๐ รู้จักคนค้นพบก่อนนะ ตอนต่อไปยาย จะเล่าถึง ดาว ๐ ดวงนี้โดยพิสดารจ้า


พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๗/๒ โดย อาจารย์แอน

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๗/๒
โดย อาจารย์แอน



          ม้าเท้ง แห่งเสเหลียง กับหันซุย เจ้าเมืองเป็งจิ๋ว ซึ่งเป็นเพื่อนรักกัน ก็ปรึกษากันที่จะกำจัดอำนาจของลิฉุย กุยกี จึงเขียนจดหมายไปถึงขุนนางที่ยังซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าเหี้ยนเต้ในเมืองหลวง คือ ม้าฮู ตงเซียว และเลาเฉีย (ตรงนี้อ่านพอผ่านๆ  นะคะ ไม่ต้องไปจดจำ เดี๋ยวก็สิ้นชีวิตไปอย่างรวดเร็ว ) ขอให้นำความกราบทูลพระเจ้าเหี้ยนเต้ ขออนุญาตนำกองทัพมาปราบศัตรูของแผ่นดิน ซึ่งก็ได้รับพระบรมราชานุญาตทันที

เป็นอันว่า ลิฉุย กุยกี ต้องเผชิญกับกองทัพของสองหัวเมืองรวมพลทั้งสิ้น ประมาณสิบสองหมื่น ที่เข้ามาล้อมเมืองหลวงไว้ แถมกองทัพนี้ประกาศทั่วไป ว่าจะเข้ามาช่วยปราบศัตรูราชสมบัติ


ลิฉุย กุยกี หารือกับสองที่ปรึกษา เตียวเจ และ หวนเตียว ซึ่งลงความเห็นว่า ข้าศึกยกมาจากเมืองเสเหลียงที่อยู่ไกล ต้องเดินทัพมาซึ่งกันดารมาก ปล่อยให้ล้อมเมืองซักพัก พอขาดเสบียงก็จะโจมตีได้โดยง่าย

นี่เป็นลักษณะสงครามแบบจิตวิทยา คือ มองที่เหตุและใช้ผลมาประเมินสถานการณ์ และวางแผน

แต่ลิบ้อง เอียวหอง เป็นทหาร ไม่เห็นด้วย ขออาสาออกรบ และตัดศีรษะข้าศึกมา แถมรับรองว่า ถ้าทำไม่ได้ก็จะให้ตัดศีรษะตนแทน
เรื่องสามก๊ก เกิด ยุ่งยาก แต่ก็สนุก เพราะต่างคนต่างมีที่ปรึกษา เหมือนที่ปรึกษาประลองความสามารถกันเอง โดยมีนายเป็นหุ่นออกหน้า ในการนี้ ที่ปรึกษากล่าวว่า ทางแถวเขาเจียวจิด ห่างจากเมืองหลวงไปทางตะวันตกประมาณสองพันเส้นนั้น มีลักษณะเป็นซอกเขา ขอให้เตียวเจและหวนเตียว คุมทหารไปซุ่ม เผื่อลิบ้อง เอียวหอง เสียทีมา จะได้ช่วยเหลือกัน

ลิฉุย กุยกี ก็ไม่เห็นด้วย ให้ลิบ้อง และเอียวหองคุมทหารหมื่นห้าพัน ออกไปปะทะกับม้าเท้ง และหันซุยอย่างเชื่อมั่น

เมื่อกองทัพทั้งสองฝ่ายปะทะกัน คราวนี้สามก๊กก็เปิดตัวละคร ระดับพระเอก คือ ม้าเฉียว บุตรชายของม้าเท้ง ซึ่งอายุเพียง ๑๘ ปี หน้าอ่อนดังสีหยก กิริยาว่องไว้ รบเก่ง ขอรับอาสาออกรบ ขี่ม้าถือทวนออกหน้าทหารไป ถ้าจะทำดวงประเทียบ ก็เป็นลักษณะที่ ดาว ๓ โดดเด่น

อ.แอน,ษณอนงค์,www.sana-anong.com,ajarn ann team

เอียวหอง เห็นหน้าอ่อนอย่างนั้น ก็ประมาท แต่ครั้นรบได้เพียงห้าเพลง ม้าเฉียวก็แทงเอียวหองตาย สมกับที่รับอาสาไว้ (เห็นไหม ไม่ต้องจำ ก็ตายแล้ว) ลิบ้องโกรธ รีบขับม้ารำง้าวตามติดมาจนใกล้ คิดว่าม้าเฉียวไม่ทันระวังตัวก็ฟันง้าวลงมา แต่ม้าเฉียวนั้นตื่นตัวระมัดระวังดีอยู่แล้ว จึงหลบทัน ลิบองเสียหลัก จึงถูกม้าเฉียวจับตัวได้

 ทหารฝ่ายในเมืองก็เลยถูกทหารฝ่ายหัวเมืองตีแตกพ่ายไป ม้าเท้งสั่งตัดศีรษะลิบ้อง(เรียบร้อยไปอีกคน) เสียบไว้หน้าค่าย ตั้งแต่นั้น ทางเมืองหลวงก็ไม่ได้ส่งใครออกมารบอีก