พิชัยสงครามกับสามก๊ก
ตอนที่ ๑๐/๑
โดย อ.ษณอนงค์
คำแสนหวี (อาจารย์แอน)
เมื่อดาวเสาร์ตีตัวออกห่างจากดาว
๘ ซึ่งเป็นคู่มิตรเก่าแก่ เดินคู่กันมาแล้วแยกกันในลักษณะเบียน คือ เป็น สี่ก็ดี
หรือ เล็งกันระยะ ๑๘๐ องศา หรือกุมกันเป็น ๐ องศา ก็ตาม หรือช่วงใดที่ดาว ๓
ย้ายเข้าสู่ราศีกุมภ์ ซึ่งเป็นดาวแห่งการวิวาท และถ้าดาว ๐ เล็งกับดาว ๗ หมายถึงความแตกหักที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
ปีไหนปีนั้น
จะเกิดอะไรๆ คล้ายในสามก๊ก โดยเฉพาะตอนนี้ของสามก๊กเป็นตอนที่ เริ่มแตกแยก ตั้งตัว
และชิงตัว
เห็นความสอดคล้องกับดวงดาวไหมคะ?
เกี่ยวค่ะเกี่ยว
(ไม่ใช่ เกี่ยว เถอะนะ แม่เกี่ยว) คือเกี่ยวกับสามก๊ก ตอนนี้ ที่จะเล่าให้ฟังนี่แหละค่ะ
มาถึงตอนที่โจโฉ
ถูกอกถูกใจดึง “ตังเจี๋ยว” ที่ปรึกษามาเป็นพวกของตนได้สำเร็จ
กล่าวถึง
“อองหลิบ” ผู้เป็นขุนนางของพระเจ้าเหี้ยนเต้
เริ่มพูดจาซุบซิบกับ “เล่าง่าย” ซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์ของพระเจ้าเหี้ยนเต้ว่า
“ข้าพเจ้า ดูดาวไทเป็ก (ซึ่งภาษาไทย
แปลว่า “ดาวขาว” อาจหมายถึง “ดาวขุนนาง”) นั้นสุกใสแต่ฤดูฝนถึงฤดูแล้ง
บัดนี้ข้ามมากลบรัศมีดาวสำหรับพระมหากษัตริย์ ข้าพเจ้าพิเคราะห์เห็นว่า
พระเจ้าเหี้ยนเต้จะสูญเสียครั้งนี้
จะมีผู้ใดเสวยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์นั่นเป็นที่งุยกับจิ้น”
ลบหลู่ฮ่องเต้เชียวนะนี่
แล้วอองหลิบจึงเอาเนื้อความนี้ลอบทูลพระเจ้าเหี้ยนเต้
แต่พระองค์มิได้ตรัสประการใด ไม่รู้ว่าเชื่อหรือเปล่า?
เห็นได้ว่าชาวจีนโบราณ
หรือนัยหนึ่งทุกชาติไม่เคยขาด “โหราศาสตร์” ซึ่งออกมาในรูปของการแหงนดูดาว
ฝ่ายโจโฉรู้เรื่องราวของการพยากรณ์จากการดูดาวของอองหลิบ
จึงให้คนสนิทไปบอกว่า
“ท่านมีน้ำใจสัตย์ซื่อต่อแผ่นดิน
อันราชสมบัติแลการบ้านการเมืองนั้น ลึกซึ้งใหญ่หลวงนัก
อย่าเพ่อให้ท่านล่วงทำนายไปก่อน”
เข้าทำนองว่า
อย่าเพิ่งเอะอะไป หรือ อย่าพูดมากไปนั่นเอง
แล้วโจโฉ
ก็ให้หาซุนฮก บอกเนื้อความที่อองหลิบพยากรณ์ ตามดาวทุกประการ ซุนฮกตอบว่า
“พระเจ้าเหี้ยนเต้นั้น ธาตุเพลิง
คือธาตุไฟ นั่นแหละค่ะ ตัวท่านธาตุดิน ถ้าท่านคิดอ่านยกไปอยู่เมืองฮูโต๋ได้
(ซึ่งก็คงเป็นธาตุดินอีก) ท่านจะคิดสิ่งใดก็จะค่อยกว้างขวางขึ้น
เห็นจะเหมือนคำอองหลิบว่าเป็นมั่นคง”
นี่เข้าทำนอง
ฟ้าประทาน คือ ดูดาวแล้วว่า ฟ้าเปิดทาง ซุนฮก ก็ต้องให้ดินบันดาล คือ ไปอยู่ที่ๆ
ส่งเสริมตน และถ้าประสานบุคคล โจโฉ ก็ต้องเชื่อ และต้องมีความสามารถส่วนตนด้วย
โจโฉ
จึงเข้าเฝ้าพระเจ้าเหี้ยนเต้แล้วทูลว่า “เมืองลกเอี๋ยงนี้ มีอันตรายจากการจลาจล ร้างโรยมาแต่ครั้งตั๋งโต๊ะแล้ว
บัดนี้พระองค์ได้เสด็จกลับมาอยู่ บ้านเมืองก็มิได้ปรกติ ขัดสนข้าวปลาอาหาร
ถ้าจะให้ตกแต่งบ้านเมืองแลค่ายคูประตูหอรบขึ้นเล่า ก็จะลำบากแก่ไพร่ทั้งปวง
แลเมืองฮูโต๋นั้น ประกอบด้วยค่ายคูประตูหอรบ อาณาประชาราษฎร์ก็มีทรัพย์สินมั่นคง ข้าวปลาอาหารบริบูรณ์ด้วยใกล้เมืองลกเอี๋ยง
ถึงมาตรว่าจะมีสงครามก็จะได้ป้องกันได้สะดวก ข้าพเจ้าจะขอเชิญเสด็จพระองค์ไปอยู่ ณ
เมืองฮูโต๋ เห็นขุนนางแลราษฎรทั้งปวงจะมีความสุข
เป็นอันว่า
ได้ย้ายเมืองกันสมใจนึก