พิชัยสงครามกับสามก๊ก
ตอนที่ ๑๐/๒
โดย อ.ษณอนงค์
คำแสนหวี (อาจารย์แอน)
ทีนี้เวลาย้ายซิคะ
ต้องผ่านกองทัพของเอียวฮอง หันเซียม ที่หลบหนีมาตั้งแต่ฉบับที่แล้ว
และที่เนินเขาแห่งหนึ่ง เอียวฮอง หันเซียม ให้ซิหลงคุมทหารสกัดโจมตี โจโฉให้เคาทูออกรบ ทีท่าที่ซิหลงรำเพลงรบนั้น
เข้าตากรรมการ โจโฉมองเห็นแววทหารเอกก็ชอบใจ คิดเกลี้ยกล่อมเป็นพวก
สามก๊ก:ซิหลงภาพจากอินเตอร์เน็ต |
หมันทองขันอาสาเกลี้ยกล่อม
โดยปลอมเป็นทหารเลวเข้าไปในค่าย เพราเหตุที่เคยรู้จักกันมาก่อน เป็นอันว่า
เมื่อได้พบกัน หลังจากทักทายปราศรัยในสิ่งที่ควรพูดแล้ว ก็เริ่มเกลี้ยกล่อม
ซิหลงได้ฟังแล้ว
ก็ถอนใจตอบว่า “เรารู้อยู่ว่า เอียวฮอง
หันเซียมนั้นมีสติปัญญาน้อย จะคิดการใหญ่มิได้
แต่จำเป็นเพราะได้อยู่ด้วยกันมานานแล้ว ครั้นจะทิ้งเสียบัดนี้ก็ไม่ควร
หมันทองจึงว่า
“ท่านไม่ได้ยินคำโบราณว่าไว้หรือ
อันธรรมดา นกจะทำรัง ก็ย่อมแสวงหาซึ่งพุ่มไม้ชัฏ จะได้ทำรังอยู่เป็นสุข
ถึงลมพายุใหญ่จะพัดหนักมา รังนั้นก็มิได้เป็นอันตราย ประการหนึ่งเป็นชาติทหาร
จะหาแม่ทัพ ก็ให้พิเคราะห์ดู ผู้มีใจโอบอ้อมอารี แลชำนาญในการสงคราม
ถึงข้าศึกจะยกมามากมายเท่าใดก็มิได้หวาดไหว
คิดอ่านป้องกันมิให้ทหารทั้งปวงเป็นอันตราย ถ้าผู้ใดพบนายที่มีสติปัญญา
หมายจะพึ่งได้แล้ว ไม่เข้าทำราชการด้วย อย่าให้คนทั้งปวงนับถือความคิดผู้นั้นเลย”
ถ้าบริษัทเปิดใหม่
หรือกำลังฟื้นฟู จะดึงคนดีมีฝีมือไป ก็ต้องมีคุณสมบัติอย่างที่หมันทองพูด
และควรจะเกลี้ยกล่อมด้วยสำนวนนี้ รับรองว่าสำเร็จ และข้อสำคัญ
ต้องดูจังหวะดาวด้วยนะคะ ต้องส่งเสริมกันดังดาวจรข้างต้น
เป็นอันว่า
ซิหลง ก็หอบผ้าหอบผ่อนหนีเอียวฮอง, หันเซียม ไปกับหมันทองในคืนนั้น และทำราชการอยู่กับโจโฉ
ตั้งแต่นั้นมา
ส่วนทัพของสองหนุ่มก็ต้องพ่ายแพ้แก่ทัพของโจโฉ
ล้มตายเป็นอันมาก และพาทหารที่เหลือหนีไปหาอ้วนสุด ณ เมืองลำหยง
เมื่อโจโฉ
พาพระเจ้าเหี้ยนเต้ และเหล่าสนมนางในย้ายมาอยู่ที่เมืองฮูโต๋ ซึ่งเป็นธาตุดิน
ที่ส่งเสริมโจโฉอย่างยิ่ง ก็มีใจกำเริบ จึงตั้งตัวเป็นอุปราช แล้วตั้ง
“ซุนฮก ซุนสิ้ว กุยแก เล่าหัว” สี่คนนี้เป็นขุนนางฝ่ายพลเรือน
“มอกาย เล็กโจ๋ ยิมจุ๋น” สามคนนี้กำกับคลังแลฉางข้าว
“เทียหยก” เป็นเจ้าเมืองตังเป๋ง
“ฮวนเสง กับ ตังเจี๋ยว” เป็นเจ้าเมืองลกเอี๋ยง
“หมันทอง” เป็นเจ้าเมืองฮูโต๋
“แฮหัวตุ้น แฮหัวเอี๋ยน โจหยิน โจหอง” ทั้งสี่คนนี้ เป็นทหารเอก
“ลิยอย ลอเตียน งักจิ้น อิกิ๋ม ซิหลง” ทั้งห้าคนนี้ เป็นทหารโท
“เคาทู เตียนอุย” เป็นทหารตรี
บรรดาทหารทั้งหลายตั้งตนเป็นขุนนางทั้งสิ้น
ส่วนในเมืองฮูโต๋ ถ้าผู้ใดจะว่าข้อราชการสิ่งใดๆ ก็ต้องผ่านโจโฉก่อน
จึงกราบทูลพระเจ้าเหี้ยนเต้ได้
จะเห็นว่า
เรื่องของธาตุทั้งห้า ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ รวมถึงวิชาโหราศาสตร์ด้วย
ใช้กันในระดับบ้านเมือง ทั้งช่วยในการตัดสินใจ มีบทบาทมากทีเดียวในประวัติศาสตร์ของชนชาติในภูมิภาคแบบนี้
เริ่มสนุกแล้วใช่ไหมคะ
โดยเฉพาะข้าพเจ้า ..สนุกมาก